พฤศจิกายน 26, 2024

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

ศอ.บต.ร่วมกิจกรรม“กงสุลใหญ่สัญจร”ช่วยเหลือคนไทยชายขอบ รัฐบาลเน้นย้ำ นำคนกลับสู่บ้านอย่างมั่นคง และยั่งยืน (มีคลิป)

แชร์เลย

พี มามะ บรรณาธิการข่าว..

(6 กรกฎาคม 2562) ณ อำเภอกัวมูซัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย นายมงคล สินสมบูรณ์ กงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู พร้อมด้วย นาวาเอก จักรพงษ์ อภิมหาธรรม ผู้อำนวยการกองบริหารยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้  นายแพทย์ สถาพร สินเจริญกิจ สำนักสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของ ศอ.บต. ,สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู และสาธารณสุขของจังหวัดนราธิวาส ร่วมลงพื้นที่พบปะและเยี่ยมเยียนประชาชนคนไทยในประเทศมาเลเซียผ่านกิจกรรมกงสุลใหญ่สัญจรและการสร้างความเข้าใจกับคนไทยในอำเภอกัวมูซัง รัฐกลันตัน โดยมีกิจกรรมการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เป็นสื่อกลาง และเสริมด้วยการพูดคุยสร้างความเข้าใจต่อการดำเนินการของภาครัฐ

นาวาเอก จักรพงษ์ อภิมหาธรรม เผยว่า วันนี้เราทุกคนเดินทางเพื่อมาเยี่ยมเยียนพี่น้องคนไทยที่พักอาศัยอยู่ในกัวมูซัง  โดย ศอ.บต. ได้บูรณาการทำงานกับกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลสุไหงโกลก ด้วยการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ มาให้บริการพี่น้องประชาชนคนไทยที่พักอาศัยอยู่ที่นี้ พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือ เกี่ยวกับหนังสือเดินทาง รับฟังความคิดเห็น ความเดือดร้อน ความต้องการ  ของพี่น้องประชาชน ในขณะเดียวกัน ศอ.บต. จะร่วมให้ข้อมูลแก่พี่น้อง   คนไทยที่อาศัยอยู่ในมาเลเซีย ว่าขณะนี้ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มีการพัฒนาทั้งในมิติ เศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรมนุษย์ เพื่อเตรียมรองรับกรอบงานเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่ 5 จชต. เพื่อการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับพี่น้องประชาชนด้วย

ในขณะที่กงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู ได้กล่าวถึงกิจกรรมกงสุลสัญจรว่า ต้องการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ห่างไกลเพื่อให้สามารถเข้าถึงประชาชนมากขึ้น ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก ศอ.บต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นอีกมิติหนึ่งในการดูแลคนไทย โดยเฉพาะคนไทยชายขอบหรือตกขอบซึ่งไม่ได้อยู่ในสารบบ ซึ่งคนไทยในมาเลเซียมีอยู่ประมาณสองแสนคน และเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการนำคนไทยกลับสู่บ้าน โดยคนเหล่านี้ควรมีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดญาติพี่น้องและบ้านเกิดแต่ด้วยเหตุผลต่างๆจึงทำให้ต้องมา

อาศัยอยู่ในมาเลเซีย ซึ่งรัฐบาลไทยต้องให้พี่น้องประชาชนที่นี่ ได้รับการดูแลและเยียวยา  ทั้งนี้การตรวจสารพันธุกรรม ดีเอ็นเอที่ผ่านมา เลขาธิการ ศอ.บต. ที่ได้กล่าวไว้ว่า “นี่คือการคืนความเป็นมนุษย์ให้กับกลุ่มคนเหล่านี้” ซึ่งรัฐบาลไทยไม่ได้ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตามแนวทางการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ต้องสร้างความยุติธรรมในพื้นที่ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นชนชาติใด ศาสนาใดถ้าเป็นคนไทยที่ประสบปัญหารัฐบาลไทยก็จะต้องเข้ามาดูแล ซึ่งการดำเนินการก็สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการนำคนกลับสู่บ้านอย่างมั่นคง และยั่งยืนที่สุดต่อไป

ทั้งนี้ ตัวแทนชาวบ้านที่มารับบริการกล่าวด้วยความตื้นตันว่า ดีใจที่รัฐบาลไทยไม่ทอดทิ้งคนไทยในต่างแดน มีความจริงใจและใส่ใจในการดูแล ก็ทำให้รู้สึกตื้นตันมีกำลังใจ เพราะถ้าไม่มีความจำเป็นจริงๆไม่มีใครที่อยากอยู่ไกลบ้าน

ด้านผู้แทนสาธารณสุขจังหวัดกล่าวถึงภาพรวมในการตรวจผู้เข้ารับบริการว่า ปัญหาสุขภาพของชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นปัญหาสุขภาพทั่วไป ซึ่งบางรายมีภาวะปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง และพบว่ามีการเข้ารับการรักษาในประเทศไทยแล้ว แต่ทั้งนี้ยังกังวลกับการตรวจพบว่ามีคนไข้ในพื้นที่ป่วยด้วยโรคหัด จึงแนะนำวิธีการดูแลและรักษา โดยได้ฉีดยาให้กับเด็กและผู้ใหญ่เพื่อเป็นการป้องกันการระบาดเพิ่มเติมแล้ว

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการเพื่อการช่วยเหลือคนไทยในประเทศมาเลเซียในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่าง ศอ.บต. และกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่พร้อมผนึกกำลังในการดูแลคนไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ภายใต้หลักความเท่าเทียมในฐานะพลเมืองไทย โดยพร้อมขับเคลื่อนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินงานของรัฐ และสร้างความเข้าใจถึงสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้กลับมามีที่หยั่งเท้าในบ้านเกิดของตนเอง

/////////////////////////////////////////////

 1,140 total views,  6 views today

You may have missed