กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เผย จยย.บอมบ์ ตลาดบ่อทอง อ.หนองจิก ปัตตานี เสียชีวิต 2 บาดเจ็บ 22 ราย เร่งติดตามคนร้ายลงโทษตามกฏหมาย

บุหงา รายา   รายงาน…

เมื่อเวลา  16.00 น.วันที่ 27 พ.ค.62  พ.ต.ต.รัชชานนท์ รุยัน สว.(สอบสวน) สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดบริเวณตลาดนัดบ่อทอง ต.บ่อทอง อ.หนองจิก มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย หลังรับแจ้งจึงรีบนำกำลัง พร้อม ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ไปที่เกิดเหตุ  เบื้องต้นแรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และมีเจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 4 นายและชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่ง  ถูกนำส่งโรงพยาบาลหนองจิก จ.ปัตตานี นอกจากนี้แรงระเบิดทำให้รถยนต์ ของชาวบ้านได้รับความเสียหายอีกหลายคัน

ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าคนร้ายใช้ระเบิดซุกซ่อนในรถจักรยานยนต์ แล้วนำมาจอดทิ้งไว้ที่จุดเกิดเหตุ หลังเสียงระเบิดได้เกิดการชุลมุนวุ่นวาย ชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อของในตลาดต่างวิ่งหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นพื้นที่ที่เกิดเหตุ เพื่อนำกำลังเข้าตรวจสอบ

กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เผย เสียชีวิต 2 บาดเจ็บ 22 ราย

คนร้ายฉวยโอกาสช่วงชาวบ้านออกหาซื้ออาหารเตรียมละศีลอด  วางระเบิดตลาดนัดบ่อทอง ชาวบ้านเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บนับ 10 หนึ่งในผู้เสียชีวิตเป็นเด็กชายอายุเพียง 14 ปี

เมื่อเวลา 16.15 น. วันที่ 27 พฤษภาคม 2562 เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณตลาดบ่อทองปัตตานี บ้านบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี โดยอาศัยช่วงเวลาที่ประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อหาอาหาร เพื่อเตรียมละศีลอด เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย ทราบชื่อคือ ด.ช.อัยดิลฟิตลี ยะโก๊ะ อายุ 14 ปี  และ นางสารีปะห์  อาเย๊าะแซ อายุ 35 ปี  และมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวน 22 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ 4 ราย และประชาชนอีกจำนวน 18 ราย เบื้องต้นผู้บาดเจ็บได้ถูกนำตัวส่งรักษายังโรงพยาบาลหนองจิก และโรงพยาบาลปัตตานี จังหวัดปัตตานี แล้ว

จากกรณีเหตุระเบิดดังกล่าว ล่าสุด พันเอก ปราโมทย์  พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ออกมาเปิดเผยว่า ภายหลังเกิดเหตุ พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพ ภาคที่ 4/อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้แสดงความเสียใจกับญาติและครอบครัวของผู้  ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บจากการกระทำของกลุ่มสุดโต่งนอกศาสนา พร้อมสั่งกำชับให้หน่วยที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือเยียวยาเหยื่อของสถานการณ์โดยเร็วที่สุด พร้อมกำชับให้รวบรวมวัตถุพยานเพื่อติดตามกลุ่มก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป

จากพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายที่มุ่งก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในห้วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐของมุสลิมทั่วโลก ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการทำความดี ละเว้นจากสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง ด้วยการทำลายชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ขัดกับหลักคำสอนทางศาสนาอิสลามอย่างร้ายแรง และ ถือเป็นมรดกบาปทางความคิดที่ถูกบิดเบือนและหลอกให้เข้าสู่วงจรอุบาทซึ่งอาชญากรเหล่านี้นอกจากจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายแล้วจะต้องได้รับผลกรรมตามบทบัญญัติแห่งอิสลาม จึงขอให้ทุกภาคส่วนได้รวมพลังอันบริสุทธิ์ต่อต้านและประณามกันอย่างกว้างขวาง เพื่อไม่ให้บุคคลเหล่านี้มีที่ยืนในสังคมอีกต่อไป

////////////////////////////////////////

 1,103 total views,  2 views today