เมษายน 19, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

ภานุ ชี้ 1 ปี 13 คนผู้แทนพิเศษรัฐบาล ภารกิจแก้ปัญหา จชต.คืบหน้าไปมาก

แชร์เลย

(21ธันวาคม 2560) นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลฯ เป็นประธานปิดงาน กิจกรรมพัฒนาศักยภาพเครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นฯ “เครือข่ายท้องถิ่นกับการหนุนเสริมการพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชนเข้มแข็ง มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ประจำปี2561 ระหว่างวันที่ 19-20 ธันวาคม 2560 โดยมี นายปรีชา ชนะกิจ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาบุคลากรและนายอำเภอ นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล ปลัดอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนา กว่า 360 คน เข้าร่วมที่โรงแรมบีพีแกรนด์ ทาวเวอร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลฯ กล่าวถึงบทบาทและภารกิจของผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา จชต.ว่า ในฐานะการเป็นผู้แทนพิเศษของรัฐบาล รับได้ทุกเรื่องเป็นเหมือนกับส่วนหนึ่งที่มาช่วย เลขาธิการ ศอ.บต. ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ปลัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. และมาช่วยอีหม่ามที่เป็นผู้นำศาสนาในพื้นที่ รวมถึงมาช่วยพี่น้องประชาชนในพื้นที่บ้านเราด้วย

โดยผู้แทนพิเศษของรัฐบาลมีทั้งหมด 13 ท่าน ซึ่งอะไรที่มันช้า เราเข้ามาช่วยทำให้มันเร็ว และการทำหน้าที่เป็นผู้แทนพิเศษของรัฐบาลของผมมาได้ 1 ปีนั้น มีหลายเรื่องที่มันช้า เราทำให้เร็ว เช่นการเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวน ซึ่ง นายจำนัล เหมือนดำ ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลที่ดูแลภารกิจที่ 5 กับผม เข้าไปช่วยดำเนินการ เรื่องการขอไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ โดยการขอขุดลอกคลอง ในการแก้น้ำท่วมหนองจิก และทั้งหมดในจ.ปัตตานี

“อะไรที่ช้า เราทำให้เร็ว อะไรที่ยาก เราทำให้ง่าย โดยผู้แทนพิเศษของรัฐบาลฯ”
นายภาณุ กล่าวต่อว่า อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ที่ชาวบ้านประสบปัญหาไม่มีไฟฟ้าใช้มากว่า 8 ปี เราก็เข้าไปช่วยดำเนินการ วันนี้ชาวบ้านมีไฟฟ้าใช้แล้ว รวมถึงแพขนานยนต์ไม่เพียงพอ เนื่องจากฝั่งไทยเรามีเพียงลำเดียว มาเลเซียมี 2 ลำ ทำให้ไม่เพียงพอต่อประชาชนที่จะสัญจรข้ามฝากระหว่างด่านศุลกากรตากใบและฝั่งมาเลเซีย ซึ่งผู้แทนพิเศษ เราได้เข้าไปจัดหางบประมาณเข้ามาช่วย โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการจัดซื้อเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นถือหน้าที่ของเราในฐานะผู้แทนพิเศษของรัฐบาลฯที่ทำหน้าที่เป็นส่วนเสริม โดยมีรัฐบาล คสช.ทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่ดีในการเข้ามาแก้ปัญหาและเพิ่มมาตรการดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเป็นระบบและเป็นธรรมด้วย เช่น การดูแลผู้มีรายได้น้อย ที่ ศอ.บต.มาช่วยทำหน้าที่ ในการทำอย่างไรให้ประชาชนได้อาชีพมีรายได้ในระยะสั้น ซึ่งวันนี้เรามีคนที่อยู่ในบัญชีที่ถือเป็นงานของ 4 เสาหลัก คนที่อยู่ในบัญชีที่เราเรียกว่า ผู้มีรายได้น้อย จำนวนทั้งหมด 39,0000 คน ซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยต่ำกว่า 10,000 -8,000บาท ทั้งประเทศมีจำนวนผู้มีรายได้น้อย จำนวน 14 ล้านคน โดยรัฐบาลตรวจมีการสอบอีกครั้ง จาก 14 ล้านเหลือ 11 ล้านคน โดยสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากจำนวน3 ล้านคน มีจำนวนตัวเลขผู้มีรายได้น้อยยืนยันแค่ 39,0000 คน

นอกจากการดูแลปัญหาเรื่องปากท้อง การมีอาชีพและรายได้ของประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามโครงการ “เมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”แล้วนั้น ในวันนี้รัฐบาล คสช.ยังเปิดโอกาส และให้โอกาสคนที่หลงผิดกลับใจเข้ามาร่วมมือกับรัฐ ซึ่งรัฐก็มีความยินที่จะช่วยเหลือเรื่องคดี ความปลอดภัยในชีวิตและการได้อยู่กับครอบครัวด้วย ทั้งนี้ 4 เสาหลัก คือผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และผู้นำธรรมชาติ ที่ถือเป็นบทบาทสำคัญในการช่วยแก้ปัญหาให้กับพื้นที่ด้วย

“การอบรมในครั้งนี้ของท่านทั้งหลายจะสำเร็จหรือไม่นั้น ผมอยากให้ท่านทั้งหลายสร้างไลน์ กลุ่ม 4 เสาหลักของท่าน แชร์ได้ทุกเครือข่าย เพื่อทำให้เกิดความเชื่อมโยงถึงกัน ใครมีปัญหาก็สามารถปรึกษาหารือกัน”

นายภาณุ กล่าวอีกว่า ตนพร้อมที่จะช่วยเหลือดูแลทุกคน เพราะตนก็ถือเป็นคนบ้านนี้ ซึ่งรัฐบาลก็มีความตั้งใจที่จะทำเพื่อชาวบ้านจริงๆ ต้องการสร้างบรรยากาศบ้านเราให้ดีขึ้น อยากให้เรากลับมารักกันเหมือนเดิม ประชาชนมีอาชีพ มีเงินในกระเป๋า ลูกได้เรียนหนังสือ และเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ นี้คือสิ่งที่รัฐบาลประสงค์ ต้องการ ทั้งหมดคือเป้าหมาย ความหวัง แต่จะสำเร็จหรือไม่นั้น อยู่ที่นายอำเภอ นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล ปลัดอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำศาสนาในพื้นที่ที่จะร่วมกันทำงานและทำให้พื้นที่บ้านเราสงบสุข

แวนูรไอฮัน แวดอเลาะ spmcnews ยะลา รายงาน

 690 total views,  2 views today

You may have missed