จนท.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 (สงขลา) และ พนักงานพิทักษ์ป่า อุทยานแห่งชาติบางลาง เร่งให้การช่วยเหลือรักษา บาดแผลลูกช้างป่าที่ถูกยิง หลังเข้ามากินพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้าน

แชร์เลย

(21พ.ย.61) นางสาวมัชฌมณ แก้วพฤหัสชัย นายสัตวแพทย์ พร้อมด้วยนายเอกสิทธิ์ อนุสาร นักวิชาการสัตวบาล จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 (สงขลา) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รับแจ้งจาก นายนาแซ โต๊ะเฮง พนักงานพิทักษ์ป่า อุทยานแห่งชาติบางลาง ว่าพบช้างป่าถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ที่บ้านสันติ 2 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา จึงเดินทางลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือช้างป่าตัวดังกล่าว เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบลูกช้างป่า เพศเมีย อายุ 4 ปี ที่ขาหลังข้างขวา มีรอยคล้ายถูกยิงด้วยปืน บาดแผลอักเสบรุนแรง แต่ยังสามารถเดินหากินเองได้ และส่งเสียงร้องเรียกแม่ตลอด เจ้าหน้าที่จึงวางแผนเข้ารักษาบาดแผล
โดยสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ยิงยาซึม ซึ่งคำนวณปริมาณยาที่จะใช้ให้พอดีกับน้ำหนักตัวและความแข็งแรงของช้าง เมื่อยิงยาซึมเข้าไปแล้วต้องรอประมาณ 15 – 20 นาที ให้ยาออกฤทธิ์ เมื่อช้างเริ่มมีอาการซึม จนไม่สามารถเคลื่อนย้ายตัวเองได้ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปทำการรักษาบาดแผล โดยล้างแผล ป้องกันแผลติดเชื้อ แต่ไม่สามารถเอาหัวกระสุนออกมาได้ เนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่องสถานที่ และเครื่องมือ พร้อมฉีดยาปฏิชีวนะ เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดในเบื้องต้น นอกจากนี้ยังได้จัดชุดเฝ้าระวัง ติดตามอาการช้างป่าอย่างใกล้ชิด ทั้งกลางวันและกลางคืน พร้อมผลักดันช้างกลับเข้าป่าต่อไป

นายนาแซ โต๊ะเฮง พนักงานพิทักษ์ป่า อุทยานแห่งชาติบางลาง กล่าวว่า เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ สันนิษฐานว่า ช้างป่าตัวนี้น่าจะมากับโขลงกับช้างป่า อีก 10 ตัว จะหากินอยู่บริเวณดังกล่าว และบุกเข้าไปกินพืชผลทางการเกษตร กินผลไม้ ในสวนของชาวบ้าน ทำให้เจ้าของสวน ไม่พอใจ จึงใช้ปืนยิงจนได้รับบาดเจ็บ และจะต้องหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ยังได้ประสานให้ผู้นำชุมชน หมู่บ้านใกล้เคียง ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้าน ทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ และหมู่บ้านใกล้เคียงถึงแนวทางการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับช้าง ห้ามทำร้ายช้างป่า เพราะอาจทำให้ช้างตกใจเข้าทำอันตรายได้ หากเจอช้างป่าในระยะใกล้ ให้ยืนนิ่ง ๆ หรือจุดประทัด เพื่อทำให้ช้างตกใจ และวิ่งกลับเข้าป่าไป