เมษายน 19, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

ศอ.บต.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จชต. พร้อมยืนเคียงข้างปชช.ไทยพุทธ เร่งแก้ไขปัญหาวัดร้าง ไม่มีพระสงฆ์ เพื่อไม่ให้รู้สึก เป็นพลเรือนชั้นที่ 2

แชร์เลย

ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดให้มีการประชุมเครือข่ายเพื่อร่วมขับเคลื่อนกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อส่งเสริมคุณภาพระบบการศึกษา ศาสนา ภาษา ศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม และเพื่อสนับสนุนองค์กรทางศาสนาทุกศาสนา ให้เป็นศูนย์กลางใน การปลูกฝังจริยธรรม แหล่งเรียนรู้ทางศาสนา รวมทั้งเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นนโยบายที่ ศอ.บต. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) และหน่วยงานในพื้นที่ร่วมส่งเสริม สนับสนุนตามนโยบายของรัฐบาล โดยมีพลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร รักษาราชการแทนเลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานการประชุม และมี พ.อ อนุชา โนนคู่เขตโขง รองผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี พระศิริปัญญาคุณ เจ้าคณะอำเภอยะหา อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา รับฟังปัญหาและข้อเสนอ และมีเจ้าคณะจังหวัดและอำเภอ ผู้แทนส่วนราชการ เครือข่ายไทยพุทธในพื้นที่ 3 จังหวัดและ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา เข้าร่วมประชุม เพื่อเสนอปัญหาและข้อแนะนำในการแก้ไข พัฒนาวัดและพี่น้องไทยพุทธในพื้นที่

พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร รักษาราชการแทน เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวถึงจุดประสงค์ในการประชุมในครั้งนี้ว่า เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมเสนอปัญหา เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ในดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้ และต้องการให้พี่น้องชาวไทยพุทธมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งศอ.บต.และแม่ทัพภาคที่ 4 มีความต้องการดูแลพี่น้องประชาชน เติมเต็มสภาวะแวดล้อมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพลเรือน ในส่วนที่เคยร้องขอ และเสนอ แต่ไม่ได้รับการแก้ไข ศอ.บต.จะเร่งดำเนินการและขับเคลื่อนเพื่อไม่ให้พี่น้องไทยพุทธในพื้นรู้สึกเป็นพลเรือนชั้นที่ 2 และรู้สึกโดดเดี่ยว เนื่องจากเห็นความสูญเสียรายวัน ในส่วนของแม่ทัพภาคที่ 4 ก็จะดูแลเรื่องความมั่นคง ให้ความรู้สึกปลอดภัยในพื้นที่ด้วย

 ด้านนายวิชัย เรืองเริงกุลฤทธิ์ นายกพุทธสมาคม จังหวัดยะลา ผู้แทนเครือข่ายชาวพุทธ ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมเสนอปัญหา และแนวทางการแก้ไขปัญหาในวันนี้ว่า เป็นการวางแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด เพราะการที่ได้เชิญพระคุณเจ้ามาร่วมเสนอแนะปัญหานั้น จะทำให้ ศอ.บต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมองเห็นปัญหาต่างๆชัดเจนขึ้น  ในส่วนปัญหาการศึกษาที่มีเสียงส่วนใหญ่เสนอให้เร่งแก้ไข ก็เพื่อให้เยาวชนและชาวพุทธมีคุณภาพชีวิตที่ดีในวันข้างหน้า อย่างไรก็ดี การอยู่ร่วมกันของทุกศาสนาไม่ใช่อุปสรรคและเหตุผลหลักในการพัฒนาพื้นที่ให้ดีขึ้น มองว่าควรถ้อยทีถ้อยอาศัย เพื่อความสงบสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ทั้งนี้ที่ประชุมมีการเสนอปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่หลากหลาย อาทิ ปัญหาวัดร้าง วัดไม่มีพระสงค์ การซ่อมแซมบูรณะวัด การพัฒนาพื้นที่โดยรอบของวัดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การส่งเสริมการศึกษาแก่ลูกหลานของพี่น้องไทยพุทธ พร้อมเสนอให้เข้าดูแลชุมชนเข้มแข็ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์หรือความน้อยใจแก่ประชาชนในพื้นที่ และปัญหาที่ดินสร้างวัดหรือสำนักสงฆ์ ที่ยังเป็นที่ดินราชพัสดุ เป็นต้น ทั้งนี้มีพระสงฆ์ที่เข้าร่วมประชุมหลายรูป ได้กล่าวถึงปัญหาที่แท้จริงว่า เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาที่แท้จริง ที่จะทำให้ศาสนาถดถอยหรือยั่งยืน แต่ขึ้นอยู่กับคนในพื้นที่ที่จะร่วมด้วยช่วยกันในการเข้าศึกษาพระธรรม ทำจิตใจให้โปร่งใส คิดดี และทำดี ส่วนปัญหาอื่นๆนั้นเป็นปัญหาเล็กน้อย และสามารถแก้ไขได้  ซึ่งรักษาราชการแทนเลขาธิการ ศอ.บต. ยืนยันที่จะรับปัญหาทุกปัญหาเพื่อพิจารณาแก้ไข หรือทำหนังสือส่งไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการต่อไป

อย่างไรดีในปีงบประมาณ 2561 สำนักประสานนโยบายการศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม ศอ.บต. ได้ดำเนินการส่งเสริม สนับสนุนกิจกรรมและโครงการของศาสนาพุทธในหลายโครงการ อาทิ งานประเพณีชักพระ กิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในวันมาฆบูชา  กิจกรรมเสริมสร้างความเข้มแข็งทางพระพุทธศาสนา ประเพณี วันเข้าพรรษา ประจำปี 2561 กิจกรรมบรรพชาอุปสมบทถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 กิจกรรมยกย่องพระผู้ควรกระทำอัญชลี กิจกรรมพัฒนาสังคมกลุ่มไทยพุทธเพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม เป็นต้น โดยใช้งบประมาณในการสนับสนุนกิจกรรมทางด้านศาสนาพุทธในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา รวมทั้งสิ้นกว่า 8 ล้านบาท

//////////////////////////

บุหงา รายา รายงาน 

 1,872 total views,  4 views today

You may have missed