เมษายน 27, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

ม.ราชภัฎพระนครศรีอยุธยา ร่วมต้อนรับเยาวชนจากดินแดนภาคใต้ 319 คนในโครงการ”สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 34

แชร์เลย

(25 ตุลาคม 2561) เวลา 13.00 น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา         พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี / ประธานคณะกรรมการดำเนินโครงการฯ เป็นประธาน กล่าวให้โอวาทข้อคิดแก่เยาวชนและปิดการเสวนา โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยาจัดกิจกรรมค่ายประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา โดยนำเยาวชนในโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 34 ทั้ง 319 คน ทัศนศึกษาสังคมพหุวัฒนธรรม วิถีชีวิต และความภูมิใจของชาติไทยในอดีต ตามเส้นทางดังนี้ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดพุทไธศวรรย์ วัดนักบุญยอแซฟ วัดไชยวัฒนาราม พิพิธภัณฑสถานแห่งเจ้าสามพระยาชมความงามวัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ อนุสาวรีย์พระเจ้าอู่ทอง คุ้มขุนแผน วัดพระราม ป้อมเพชร และศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านของพ่อ และจัดพิธีเปิดการเสวนา เรื่อง พหุวัฒนธรรมอยุธยา,รากฐานความเป็นสังคมไทยร่วมสมัย ณ ห้องประชุม อาคาร 100 ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา โดยมีนายเรวัติ ประสงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ ดร.เกษม บำรุงเวช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวร่วมให้การต้อนรับ

ดร.เกษม บำรุงเวช อธิการบดีกล่าวว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 34 ได้มีโอกาสต้อนรับเยาวชนและครูพี่เลี้ยงจากดินแดนภาคใต้ ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา เป็นมหาวิทยาลัยที่มีนักศึกษาทั้งชาวพุทธและมุสลิม มีแหล่งเรียนรู้และมีบุคลากรที่จะให้ความรู้แก่เยาวชนที่ต้องการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรม มุ่งหวังเพื่อเป็นส่วนหนึ่งการพัฒนาสังคมจนนำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข

ทั้งนี้มีเยาวชนจากโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 34 ได้กล่าวความรู้สึกในครั้งนี้ว่า ขอขอบคุณโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ที่ได้เปิดโอกาสตัวเองและเพื่อนๆ ได้มาถึงจุดนี้ ตนเองได้ประสบการณ์อะไรใหม่ๆมากมาย ได้เรียนรู้ถึงการใช้ชีวิตของคนในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ได้ไปศึกษาสถานที่สำคัญมากมาย โดยเฉพาะจังหวัดอยุธยา ต้องยอมรับว่าเป็นจังหวัดที่เราทุกคนควรแก่การมาศึกษาเรียนรู้มาก เพราะจังหวัดอยุธยาเป็นแหล่งของสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างแท้จริง เพราะมัสยิด วัด หรือโบสถ์ ยังอยู่บริเวณใกล้กัน รวมทั้งชาวบ้านทั้งไทยพุทธ มุสลิม หรือคริสต์ ก็เป็นเพื่อนกันอย่างมีความสุข ขอบคุณทางโครงการฯที่ได้พามาดูสิ่งดีๆ และหลังจากนี้ไปจะนำสิ่งสวยงามเหล่านี้ไปเล่าต่อกับเพื่อนๆในสถานศึกษา รวมทั้งชุมชนของตนเองให้รู้ว่าเราทุกคนคือเพื่อนกัน ถึงแม้จะต่างศาสนา ต่างความคิด ต่างการใช้ชีวิต แต่มีอย่างเดียวที่เหมือนกันคือ เราอยู่ประเทศไทย และมีในหลวงองค์เดียวกัน ดังนั้นเราอยู่ได้ด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจในการทำความดี

//////////////////

บุหงา รายา รายงาน

 854 total views,  2 views today

You may have missed