พล.ต.ต.มนัส ศิกษมัต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เปิดกับผู้สื่อข่าว ถึงความคืบหน้า หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง 5 กองกำกับ 7 บก.ทล.ได้จับกุมวัตถุระเบิดแสวงเครื่องจำนวนมาก พร้อมรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นตอนครึ่งสีน้ำตาล ทะเบียน บท- 2788 ปัตตานี และควบคุมผู้ต้องหา ซึ่งเป็นคนร้ายนั่งข้างคนขับได้ 1 คน ช่วงบริเวณบ้านสะหริ่ง ม.1 ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 61 ที่ผ่านมา
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาคือนายซานูซี ยาแต อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/1 ม.10 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็น 1 คนร้าย ได้ให้การที่เป็นประโยชน์ โดยรับสารภาพเบื้องต้นว่า ร่วมกับผู้ต้องหาที่หลบหนี ทราบชื่อคือนายอับดุลอาชิ สามะ อายุ21ปี อยู่บ้านเลขที่133 หมู่10 ต.บางขุนทอง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งหลบหนีไปได้ ซึ่งตนและผู้ต้องหา รวม 2 คน ได้ใช้รถยนต์กระบะคันดังกล่าว ขับไปจอดรอ ที่บริเวณริมคลองตะเข็บชายแดน ไทย-มาเลเซีย บริเวณช่องทางเถื่อน บ้านปะดาดอ ต.นานาค อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ต่อมา ได้มีชายฉกรรจ์ 4 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน ซ้อนท้าย มาส่งวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง จึงนำขึ้นรถยนต์ โดยนำผ้านวม มารองเพื่อป้องกันการสะเทือน และขับมาตามเส้นทาง จุดหมายปลายทางเพื่อส่งต่อไป ให้กับคนร้ายในพื้นที่ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส แต่ระหว่างทางถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงตรวจจับได้เสียก่อน
ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดนราธิวาส ยังกล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ EOD หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ระเบิดที่แสวงเครื่องที่ยึดได้ จำนวน 41 ลูกเป็นระเบิดชนิดไปป์บอมบ์ ทำมาจากท่อพีวีซี ซึ่งวัสดุท่อพีวีซี ไม่พบในประเทศไทย แต่แหล่งที่มาเป็นส่วนประกอบจากประเทศเพื่อนบ้าน และระเบิดในพลาสติกแบบ 4 เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดกว้าง 4 นิ้วคูณ 4 นิ้ว ซึ่งมีการตั้งเวลาให้ระเบิดทำงาน นอกจากนี้พบสารเคมี เป็นสารที่สามารถที่จะนำไปใช้กับระเบิดขนาดใหญ่ได้ อีกจำนวน 2 ชุด และเจ้าหน้าที่ยังสามารถตรวจยึดโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาได้อีก 2 เครื่อง เจ้าหน้าที่จะได้ทำตรวจสอบว่าคนร้ายได้ใช้ติดต่อกับผู้ใด หรือกลุ่มโจรใดต่อไป
ส่วนกรณีผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีไปอีกคน ได้ 1 คน คือ นายอับดุลอาซิ สามะ ซึ่งเป็นคนมีภูมิลำเนาอยู่พื้นที่ ต.บางขุนทอง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จากการติดตามไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ ล่าสุดพบเบาะแสคนร้ายหนีไปทางริมคลอง ตามชายแดน ต่อมาได้มีรถจักรยานยนต์ มารับและพาหลบหนี ซึ่งคนร้ายได้ทิ้งกระเป๋าเป๋สีดำ มีพาสปอร์ตไทย ของคนร้ายอีก 1 เล่ม เจ้าหน้าที่ได้ยึดเป็นหลักฐานไว้ตรวจสอบแล้ว
ในส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ หลังเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง จำนวนมาก จากกาการวิเคราะห์ เชื่อว่าคนร้าย มุ่งประสงค์ทำร้ายเจ้าหน้าที่อย่างแน่นอน ซึ่งระเบิดไปป์บอมบ์ เป็นชนิดขว้าง คาดเป้าหมาย จุดตรวจ หรือจุดตรวจยุทธศาสตร์ที่ล่อแหลม ทั้งนี้ไดกำชับเจ้าหน้าที่ทุกส่วน เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจค้นยานพาหนะ บุคคลตามเป้าหมาย เน้นคนที่ใส่หมวกกันน็อคเต็มใบ หรือ ผู้ชายแต่งกายชุดคลุมฮีญาบ แต่งเป็นหญิง เนื่องจากพบว่า คนร้ายที่ลงมือก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่ มักแต่งกายอำพรางใบหน้า และแต่งกายอย่างผิดปกติเสมอ จึงต้องเพิ่มความละเอียดในการตรวจสอบในช่วงนี้เป็นกรณีพิเศษ
สุไลมาน ยุ/รายงาน
892 total views, 6 views today
More Stories
เลขาฯ รมต.ยุติธรรม ชี้ มหกรรมแก้หนี้ ปลดหนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม แก้ปัญหาหนี้สิน 242 ล้าน
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเป็นประธานเปิดป้ายอาคารเรียนและอาคารปฏิบัติการ วิทยาลัยการอาชีพเบตง
เทศบาลเมืองปัตตานีจัดกิจกรรมสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่อยอดกิจกรรมการเรียนรู้ภายในศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของอุทยานการเรียนรู้ปัตตานี