วันที่ 8 มิถุนายน 2561 เวลา 10.00 น. ณ ตึกนารี สโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นำตัวแทนกลุ่มธุรกิจประมงพื้นบ้าน ตัวแทนกลุ่มต้นแบบโอรังปันตัย ตัวแทนกลุ่มการท่องเที่ยวชุมชน ฆูนุงสีลีปัต อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้แปรรูปยางพาราถ้ำทะลุ ตัวแทนกลุ่มเยาวชนหมู่บ้านเกษตร และกลุ่มปศุสัตว์ต้นแบบ ร่วมแถลงความก้าวหน้าการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้การขับเคลื่อนงานของรัฐบาล “สานพลังประชารัฐ” และโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” สร้างจุดยืนใหม่ที่เรียกว่า เศรษฐกิจประชารัฐ “รู้กิน รู้ให้ รู้ใจกัน”
นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการศูนย์อำนวยบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวถึง การทำงานของทุกหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เป็นการทำงานเชิงรุกทั้งหมด เพราะนายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการเน้นย้ำว่าจะต้องยุติการใช้ความรุนแรงในพื้นที่ให้ได้ภายในปีการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ โดยแนวทางการเสริมความมั่นคงของหน่วยงาน ด้านความมั่นคง คือ การพัฒนาเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ผลสะท้อนจากการพัฒนาที่ผ่านมา พบว่าสถิตินักท่องเที่ยว ในห้วงระหว่างเดือนมกราคม-ธันวาคม 2560 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้สูงกว่าปีที่ผ่านมา
โดยตลอดทั้งปี มีจำนวนนักท่องเที่ยวเฉลี่ย 1,534,193 คน และมีจำนวนการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มสูงขึ้น รวมรายได้จำนวนกว่า 6,433.46 ล้านบาท ประกอบกับตัวชี้วัดทางด้านเศรษฐกิจที่มีความก้าวหน้าอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม อาทิ “การลงทุน” และ “การขยายตัวทางเศรษฐกิจ” พบว่า จังหวัดยะลา ภาคการบริการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.72 การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.51 การลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.76 มูลค่าการค้าชายแดนขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 45.98 ในขณะที่ จังหวัดนราธิวาส ภาคเกษตรขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.8 ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 การลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 และจังหวัดปัตตานี ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 และภาคเกษตรขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 ทั้งนี้ เชื่อมโยงถึงความตื่นตัวของประชาชนในพื้นที่ที่เพิ่มขึ้น สังเกตจากจำนวนร้านค้า แผงลอยที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงสัดส่วนอัตราการว่างงานลดลง ประชาชนย้ายกลับถิ่นฐาน การซื้อขายที่ดิน สร้างบ้านพักอาศัย บ้านจัดสรร จำนวนแหล่งท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น ฯลฯ สะท้อนให้เห็นว่าการทำงานด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมส่งผลต่อการสร้างความมั่นคงอย่างมีนัยสำคัญ
นายมูหามะสุกรี มะสะนิง นายกสมาคมชาวประมงพื้นบ้าน จังหวัดปัตตานี กล่าวว่า กลุ่มปลากุเลาโอรังปันตัย เกิดขึ้นจากการให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของรัฐบาลที่สั่งการให้ ศอ.บต. เข้ามาดูแลชาวบ้านประมงชายฝั่งที่ไม่สามารถออกหาปลาได้ในช่วงเดือนมรสุม จึงส่งเสริมอาชีพให้มาทำปลากุเลาเค็มขาย ทำให้ตอนนี้ชาวบ้านมีรายได้ตลอดทั้งปี ส่วนปลากุเลาเค็มก็ได้รับการพัฒนาทั้งรูปแบบบรรจุภัณฑ์และรสชาติ มาตรฐาน ทำให้ส่งออกไปไกลถึงตลาดต่างประเทศ ซึ่งจากการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานในวันนี้ ถือเป็นมิติการทำงานใหม่ของการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะมิติงานพัฒนาด้านเศรษฐกิจ ที่เข้ามาสนับสนุน ส่งเสริมกับประชาชนอย่างเต็มที่ ทำให้เห็นผลเป็นรูปธรรมในการสร้างงานสร้างอาชีพและรายได้ของประชาชนให้มีความมั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน วันนี้ตนในฐานะที่เป็นคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ที่ตั้งใจ และจริงใจในการช่วยเหลือประชาชนในทุกๆด้าน ทำให้ปัจจุบันเริ่มเห็นที่ยืนของประชาชนและลูกหลานคนชายแดนใต้มากขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดการมีคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจที่ดีนั้นอาจจะเป็นส่วนสำคัญในการลดปัญหาการใช้ความรุนแรงในพื้นที่ได้ และจะทำให้พื้นที่มีแต่ความสันติสุข
SPMCnews รายงาน
862 total views, 4 views today
More Stories
เลขาฯ รมต.ยุติธรรม ชี้ มหกรรมแก้หนี้ ปลดหนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม แก้ปัญหาหนี้สิน 242 ล้าน
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเป็นประธานเปิดป้ายอาคารเรียนและอาคารปฏิบัติการ วิทยาลัยการอาชีพเบตง
เทศบาลเมืองปัตตานีจัดกิจกรรมสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่อยอดกิจกรรมการเรียนรู้ภายในศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของอุทยานการเรียนรู้ปัตตานี