ธันวาคม 29, 2025

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

เจาะลึกศึกเลือกตั้งสงขลา เขต 8 (จะนะ-นาทวี) เมื่อบารมี “รุ่นใหญ่” ชน “รุ่นใหม่” ในสมรภูมิวิถีชนบท

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ): เรียบเรียง
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

บทนำ: สงขลาคึกคัก วันแรกยอดรับสมัครพุ่ง
      บรรยากาศการเปิดรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดสงขลาวันแรกเป็นไปอย่างร้อนแรง โดยมีผู้สมัครตบเท้าเข้ายื่นความจำนงรวมทั้ง 9 เขตเลือกตั้งถึง 49 คน โดยพรรคยักษ์ใหญ่อย่าง ภูมิใจไทย, เพื่อไทย, ประชาชน และประชาธิปัตย์ ต่างส่งผู้สมัครครบทุกเขต แต่ที่เป็นไฮไลท์สำคัญคือ เขตเลือกตั้งที่ 8 (อ.จะนะ, อ.เทพา) ที่มียอดผู้สมัครสูงสุดถึง 7 คน สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดและเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่ไม่มีใครยอมใคร

สมรภูมิเขต 8 กับตัวแสดงที่แตกต่าง
ในเขตพื้นที่ 8 นี้ นักวิเคราะห์คาดว่า เป็นศึกระหว่าง “บารมีและผลงาน” ปะทะ “ความสดและจิตอาสา” โดยมีตัวเต็งหลักคือ:

  • พล.ต.ต. สุรินทร์ ปาลาเร่ (เบอร์ 3) พรรคกล้าธรรม: แชมป์เก่าหลายสมัยที่เป็นเจ้าของพื้นที่เดิม ครั้งนี้ย้ายสังกัดใหม่แต่ยังคงชูสโลแกน “เดินเคียงข้างทุกเส้นทางอย่างมั่นคง” เน้นย้ำความเป็นนักปฏิบัติที่ชาวบ้านคุ้นเคย
  • นายฆอซาลี ดุสะเหม๊าะ (เบอร์ 1) พรรคภูมิใจไทย: นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของกิจการ “ไก่อบโอ่ง” ที่ใช้ต้นทุนจากงานจิตอาสาหลายปีเป็นฐานสำคัญ ชูการเมืองเชิงบวกและการลงมือทำจริงเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต

ในขณะที่ตัวสอดแทรก อย่าง

  • ทนายซิ – นายธีรพงศ์ ดนสวี (เบอร์ 5) จากพรรคประชาธิปัตย์: ตัวแทนพรรคสีฟ้าเดิมที่พยายามกอบกู้ศรัทธาด้วย “การเมืองสุจริต” และมุ่งเน้นการทำหน้าที่ผู้แทนตามอุดมการณ์พรรค

อภิปราย: ปัจจัยชี้ขาดระหว่าง “บารมีท้องถิ่น” และ “กระแสพรรค”
ความน่าสนใจของเขต 8 คือบริบทที่เป็น “พื้นที่ชนบท” ซึ่งมีวัฒนธรรมการเมืองต่างจากในเมืองใหญ่ ดังนี้:

1. ตัวบุคคลเหนือกระแส (Personal Connection):
     ในพื้นที่ชนบทอย่างจะนะ-เทพา “กระแสพรรค” อาจไม่ขลังเท่า “การเข้าถึงตัว” ชาวบ้านในพื้นที่เหล่านี้มักตัดสินใจเลือกจากความใกล้ชิด ใครไปร่วมงานบุญ งานแต่ง งานศพ งานการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม หรือใครที่พึ่งพาได้ในยามเดือดร้อน ดังนั้น “บ้านใหญ่” หรือนักการเมืองที่มีบารมีเดิมจึงได้เปรียบในแง่ของความไว้วางใจที่สะสมมานาน

2. ผลงานเชิงประจักษ์ vs วิสัยทัศน์ใหม่:
     แชมป์เก่าอย่าง พล.ต.ต. สุรินทร์ มีข้อได้เปรียบเรื่องผลงานที่ชาวบ้านเห็นมาหลายปี แถมยังเป็นเลขาธิการคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ดูแลการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมผ่านองค์กรศาสนา ขณะที่ นายฆอซาลี ใช้ความได้เปรียบจากการเป็นคนรุ่นใหม่ที่คลุกคลีกับงานอาสา ซึ่งเป็นการสร้าง “บารมีใหม่” ผ่านการช่วยเหลือสังคมโดยตรง ไม่ได้พึ่งพาเพียงแค่ชื่อพรรคภูมิใจไทยเพียงอย่างเดียว

3. การเลือกตั้งแบบ “แยกเบอร์ แยกพรรค”:
พฤติกรรมการลงคะแนนของชาวบ้านในเขตนี้มักมีความชัดเจน คือ “สส. เขต เลือกคนที่รัก พรรค เลือกคนที่ชอบ”

  • บัตรใบแรก (เขต): มักเลือกคนที่ “พึ่งได้” หรือ “บ้านใหญ่” ที่มีผลงานชัดเจนในระดับท้องถิ่น
  • บัตรใบที่สอง (บัญชีรายชื่อ): จึงจะเป็นพื้นที่ของการต่อสู้ทางอุดมการณ์ ระหว่างฝ่าย อนุรักษ์นิยม/ชาตินิยม (เช่น ปชป., ภูมิใจไทย, กล้าธรรม) กับฝ่าย เสรีนิยม/การเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง (เช่น พรรคประชาชน, เพื่อไทย)

สรุป: บทพิสูจน์ศรัทธาของชาวจะนะ-เทพา
     การแข่งขันในเขต 8 สงขลา จึงเป็นการวัดใจชาวบ้านระหว่าง “ความเก๋า” ที่มาพร้อมผลงานและความคุ้นเคย กับ “ความสด” ที่มาพร้อมจิตอาสาและพลังของการเปลี่ยนแปลง โดยมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวสอดแทรกสำคัญจากฐานเสียงเดิม
ท่ามกลางผลโพลระดับภาคที่พรรคประชาธิปัตย์และนายอภิสิทธิ์เริ่มมีกระแสกลับมาแรงอีกครั้ง แต่สำหรับพื้นที่ชนบทที่ให้ราคาความสำคัญกับ “การลงพื้นที่” มากกว่า “กระแสโซเชียล” ผลลัพธ์ในวันลงคะแนนจะเป็นคำตอบว่า ระหว่างบารมีที่หยั่งรากลึก กับกระแสการเมืองยุคใหม่ สิ่งใดจะครองใจคนจะนะ-เทพาได้มากกว่ากัน

 204 total views,  204 views today