ธันวาคม 29, 2025

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

ประเด็นร้อน: ททบ.5 กับปมเงินนอกงบประมาณและข้อกังขาเรื่องงบสหรัฐฯ

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ): เรียบเรียง
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

บทนำ
     ประเด็นปฏิรูปกองทัพกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง เมื่อ พลเอกรังษี กิติญาณทรัพย์ (อดีต ผอ.ททบ.5) ออกมาระบุว่า ช่อง 5 ดำเนินกิจการได้โดยไม่ต้องพึ่งงบประมาณแผ่นดิน แต่ใช้ “งบสนับสนุนจากสหรัฐฯ” นำไปสู่การตั้งคำถามจากสังคมและพรรคประชาชนถึงความโปร่งใส ที่มาของรายได้ และการตรวจสอบเงินนอกงบประมาณที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้ชื่อ “ธุรกิจกองทัพ”

ข้อเท็จจริง vs คำกล่าวอ้าง
จากการตรวจสอบข้อมูลพบความย้อนแย้งใน 3 ประเด็นหลัก:

  • ที่มาของงบประมาณ: แม้จะอ้างงบสหรัฐฯ แต่ในความเป็นจริง ททบ.5 ใช้ กำลังพลทหาร (ซึ่งรับเงินเดือนจากภาษี) และใช้ คลื่นความถี่ (สมบัติชาติ) ในการดำเนินธุรกิจ
  • กลไกเงินนอกงบประมาณ: กองทัพมีการแยกเงินนอกงบประมาณเป็น ประเภทที่ 2 ซึ่งระเบียบเปิดช่องให้เหล่าทัพบริหารจัดการเองได้โดยไม่ต้องส่งคืนคลัง และไม่ต้องเปิดเผยงบการเงินต่อสภาฯ
  • รายได้มหาศาล: ททบ.5 มีรายได้จากโครงข่ายทีวีดิจิทัล (MUX) กว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี แต่กลับรายงานว่าขาดทุน และไม่เคยส่งงบการเงินให้ กมธ. ตรวจสอบตั้งแต่ปี 2563

อภิปราย: ปัญหาโครงสร้างที่ซ่อนไว้
     ปัญหาของ ททบ.5 ไม่ใช่แค่เรื่อง “เงินสนับสนุน” แต่คือภาพสะท้อนของ “รัฐอิสระทางเศรษฐกิจ” ภายในกองทัพ การที่หน่วยงานความมั่นคงทำธุรกิจเชิงพาณิชย์ (สนามกอล์ฟ, โรงแรม, สื่อ) โดยใช้ทรัพยากรรัฐแต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมในการแข่งขันทางธุรกิจ และมีความเสี่ยงต่อการทุจริตหรือการใช้จ่ายเงินที่ผิดวัตถุประสงค์โดยที่ระบบรัฐสภาไม่สามารถทัดทานได้

สรุปและข้อเสนอแนะ
การปฏิรูปธุรกิจกองทัพไม่ใช่การทำลายกองทัพ แต่คือการทำให้กองทัพมีความเป็นมืออาชีพและโปร่งใสตามมาตรฐานสากล
ข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูป:

  • ยกเลิกเงินนอกงบประมาณประเภทที่ 2: บังคับให้รายได้จากธุรกิจกองทัพทั้งหมดต้องรายงานต่อกระทรวงการคลังและรัฐสภา
  • แยกธุรกิจออกจากหน่วยงานทหาร: ธุรกิจเชิงพาณิชย์ต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล (บริษัท) เพื่อให้ สตง. และกรมสรรพากรตรวจสอบได้ตามกฎหมายปกติ
  • ถ่ายโอนภารกิจที่ไม่ใช่ความมั่นคง: โอนโครงข่าย MUX และคลื่นความถี่ให้หน่วยงานพลเรือน (เช่น กรมประชาสัมพันธ์) บริหารจัดการเพื่อนำรายได้เข้าคลังเต็มเม็ดเต็มหน่วย
  • คืนกำลังพลสู่ภารกิจหลัก: นำทหารที่ทำงานในส่วนธุรกิจสื่อหรือบริการ กลับไปทำหน้าที่ป้องกันประเทศตามภารกิจหลักของกองทัพ

     นอกจากนี้บทสรุปและข้อเสนอแนะนี้ ยังสอดคล้องเป็นส่วนใหญ่กับรายงานผลการพิจารณาศึกษาปัญหาและแนวทางการปฏิรูปธุรกิจกองทัพ โดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจของกองทัพไปอยู่ในความดูแลของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ของรัฐสภาล่าสุดด้วย

หมายเหตุ: ชมคลิปย้อนหลังใน
https://www.facebook.com/share/v/1DJAN62gMK/?mibextid=wwXIfr

 128 total views,  128 views today