อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ทุกท่าน

สนามเลือกตั้งภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดสงขลา กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ผันผวนอย่างรุนแรง เมื่อการช่วงชิงอำนาจระหว่างพรรคใหญ่ 3 ขั้วถูกขับเคลื่อนด้วยสองกระแสที่สวนทางกัน:
- การรุกคืบของพรรคภูมิใจไทยที่เปิดตัวผู้สมัครเกือบครบทุกเขต
- การดึงตัวแกนนำของพรรคกล้าธรรมจากสส.พรรคอื่น แต่อาจถูกสกัดด้วย “วิกฤตทุนเทา” และ
- การกลับมาของ “กระแสอภิสิทธิ์” ในพรรคประชาธิปัตย์ ที่อาจช่วย “ซื้อเวลา” และ “ซื้อใจ” สส. ที่ลังเลให้ตัดสินใจอยู่กับบ้านเดิม
I. ศึกเลือกตั้งปี 69: ภูมิใจไทยรุกคืบเต็มตัว
ขณะที่พรรคภูมิใจไทยเปิดตัว 3 แคนดิเดตนายกฯ เพื่อเน้นย้ำความพร้อมระดับชาติ โดยชูมิติเศรษฐกิจและการบริหาร (นายเอกนิติ นิติฑัณฑ์ประภาศ และ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์) พรรคก็เดินหน้าตามยุทธศาสตร์ “ปักธงใต้” อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายส่งผู้สมัครกว่า 49 คน จาก 59 เขต
-
ผู้สมัครเด่นในสงขลา: การเปิดตัวบุคคลที่มีฐานเสียงท้องถิ่น เช่น พ.ต.อ. พิทักษ์ พุทธวิโร (เขต 9) และ นายฆอซาลี ดุสะเหม๊าะ (เขต 8) แสดงให้เห็นถึงความพยายามของภูมิใจไทยในการใช้จังหวะที่พรรคคู่แข่งมีปัญหาด้านธรรมาภิบาล เข้ามาเป็น ทางเลือกที่สาม ที่มั่นคงและหลีกเลี่ยงกระแสดราม่า
II. วิกฤต ‘ทุนเทา’ อาจสกัดกล้าธรรม: เพราะ ‘ชนนพัฒฐ์ เอฟเฟกต์’
พรรคกล้าธรรมอาจสามารถดึง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน และ นายเดชอิศม์ ขาวทอง (อดีตเลขาธิการ ปชป.) พร้อมกลุ่ม สส. ในพื้นที่สงขลาเข้ามาเสริมทัพได้สำเร็จ เพื่อยกระดับพรรคสู่ระดับใหญ่
แต่ความสำเร็จนี้กลับถูกบั่นทอนด้วย “ชนนพัฒฐ์ เอฟเฟกต์” เมื่อ นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว (สส.พรรคกล้าธรรม) ถูกกล่าวหาว่าพัวพันกับ “ทุนเทา” และเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งเป็นประเด็นที่ประชาชนในสงขลาเบื่อหน่ายและให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ดังที่สะท้อนจากข้อมูลของ ปปง. และมุมมองทางศาสนาอิสลามที่มองว่า “ทุนเทา” เป็นสิ่งที่ต้องห้าม (หะรอม)
| ปัจจัยที่เปลี่ยนแปลง | สถานการณ์ในพรรคกล้าธรรมและสงขลา |
|---|---|
| ความเสื่อมเสียจากทุนเทา | ภาพลักษณ์ของพรรคกล้าธรรมถูกกระทบอย่างหนักในด้านความโปร่งใส |
| ภาวะลังเลของนักการเมืองย้ายค่าย | สส. เดิมจาก ปชป. ที่เตรียมย้ายเข้ากล้าธรรม ต้องเข้าสู่ภาวะลังเลอย่างหนัก เพราะเสี่ยงต่อการสูญเสียความเชื่อมั่นจากฐานเสียงเดิมที่ต่อต้านทุนเทา |
III. ปชป. ฟื้นตัว: ‘กระแสอภิสิทธิ์’ กลับมาเป็นแรงดึงดูด
ท่ามกลางวิกฤตของกล้าธรรม พรรคประชาธิปัตย์กลับมามีกระแสที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากการลงพื้นที่พบปะประชาชนใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคคนใหม่ เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2568
-
เสียงสนับสนุนจากประชาชน: การต้อนรับที่ล้นหลามและป้ายข้อความที่ระบุว่า “สีเทาเต็มเมือง ต้องให้อภิสิทธิ์มาเป็นนายกฯ ได้หม้าย” เป็นหลักฐานชัดเจนว่าประชาชนในพื้นที่โหยหาผู้นำที่ซื่อสัตย์และต่อต้านทุนเทา
-
โอกาสอยู่ต่อ: กระแสฟื้นตัวของ ปชป. และภาพลักษณ์ความซื่อสัตย์ของแกนนำเดิม (นายอภิสิทธิ์, นายชวน หลีกภัย) กลายเป็น ปัจจัยที่แข็งแกร่ง ที่อาจทำให้ สส. ปชป. เดิมที่ลังเลจะย้ายไปพรรคกล้าธรรม อาจตัดสินใจอยู่กับ ปชป. ต่อไป เพราะเห็นโอกาสในการรักษาฐานเสียงเดิมไว้ได้มากกว่า
บทสรุป: การเดิมพันของนักการเมืองใต้
การต่อสู้ในสมรภูมิสงขลาจึงเป็นการแข่งขันที่เข้มข้น:
- ภูมิใจไทย: เป็นผู้ท้าชิงที่อาจไร้รอยด่างเรื่องทุนเทาอย่างชัดเจนและกระแสชาตินิยม
- กล้าธรรม: ถึงแม้จะได้ผู้นำที่แข็งแกร่ง แต่กำลังถูกถ่วงด้วยปัญหาภายใน “กระแสทุนเทา”
- ประชาธิปัตย์: ถึงแม้จะเพิ่งฟื้นตัว แต่โชคดีกำลังได้แรงหนุนจากความเบื่อหน่ายใน “การเมืองสีเทา” ของประชาชนในพื้นที่
การตัดสินใจของผู้สมัคร สส. ในสงขลาและภาคใต้จึงเป็นจุดชี้ขาดสำคัญ: พวกเขาต้องเลือกเดิมพันอนาคตทางการเมืองของตัวเองว่าจะเลือก “อำนาจการจัดทัพ” ของแกนนำที่ย้ายไป หรือเลือก “กระแสศรัทธา” ที่ประชาชนกำลังมอบให้แก่พรรคเดิมที่กลับมามีความหวัง
1,422 total views, 12 views today

More Stories
บทวิเคราะห์ หลัง “อัยการสั่งฟ้องคดี ม.116 “5 นักกิจกรรม-นศ. ปัตตานี” กรณีเสวนาสิทธิในการกำหนดอนาคตตัวเอง-กิจกรรมประชามติจำลอง
“ทวี” ย้ำสู้ต่อ! ลุยนำ “ประชาชาติ” ป้องกันแชมป์ชายแดนใต้ สยบข่าวลือซบ “เพื่อไทย”
รายงานข่าว: สันติภาพไทย-กัมพูชา หลังระงับ “ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์” มาเลเซียเดินหน้าบทบาทผู้อำนวยความสะดวก