ธันวาคม 7, 2025

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

คืบหน้าผลพิสูจน์ DNA เหตุคนร้ายปล้นทองกลางห้างในพื้นที่ สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส

แชร์เลย

 

   คืบหน้าผลพิสูจน์ DNA เหตุคนร้ายปล้นทองกลางห้างในพื้นที่ สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ยืนยันผลพิสูจน์ DNA เป็นของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ตามที่บางกลุ่มกล่าวอ้าง

   จากเหตุคนร้ายปล้นทองกลางห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ทำให้ส่งผลต่อผลกระทบจากความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน นับเป็นการกระทำเยี่ยงโจร สะท้อนเจตนาที่ชัดเจนของผู้ก่อเหตุในการใช้ความรุนแรงเพื่อหวังประโยชน์ทางการเงินเพื่อมาหล่อเลี้ยงกลุ่มขบวนการ แต่ยังมีบางกลุ่มกล่าวอ้างและพยายามบิดเบือนข้อมูล สร้างความเข้าใจผิดว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ

  โดยคืบหน้าล่าสุด ผลการตรวจสอบหลักฐานซึ่งเป็นรถยนต์ที่พบจอดทิ้งไว้บริเวณ บ้านตอออ หมู่ที่ 1 ตำบลกายูคละ อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส จำนวน 2 คันตรงกับรถยนต์ที่ผู้เสียหาย 2 รายแจ้งความว่าถูกปล้นรถยนต์ และได้ลงบันทึกประจำวันไว้ ณ สถานีตำรวจภูธรสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส
ก่อนคนร้ายจะนำมาใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุปล้นทองกลางห้างในพื้นที่ สุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาสทราบรายละเอียดดังนี้

  • คันที่ 1 รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน กค 6521 นราธิวาส
    ซึ่งเป็นรถของ นายมะอูเซ็ง แจ๊ะมะ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 277 หมู่ที่ 4 ต.ปะลุรู อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส

  • คันที่ 2 รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน บท 7187 ปัตตานี
    ซึ่งเป็นรถของ นายการี เต็ง อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95/4 หมู่ที่ 5 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส

    นอกจากนี้ DNA ที่เก็บได้ ระบุได้ชัดว่าเป็นการกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรงเพราะผลพิสูจน์ DNA ในรถที่เกิดเหตุพบว่าตรงกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีความมั่นคงและจะได้ติดตามเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป

     ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ช่วยกันสอดส่องดูแลพื้นที่หากพบเห็นบุคคลต้องสงสัยหรือวัตถุต้องสงสัย หรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการติดตามผู้ก่อเหตุ สามารถแจ้งเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. โทร. 1341 หรือหน่วยเฉพาะกิจใกล้บ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง

     และย้ำว่า ผู้สนับสนุนผู้ก่อเหตุรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการให้ที่พักพิง ซ่อนตัว หรือจัดหาเสบียงถือว่ามีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189
อาจถูกจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 12,417 total views,  2 views today

You may have missed