ธันวาคม 7, 2025

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

ศอ.บต. ใช้วาระกระท่อม สกัดยาเสพติดชี้ “ยาบ้า ยาไอซ์อยู่ไม่ได้”

แชร์เลย

   

     ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เดินหน้าจับมือภาคสื่อมวลชนอย่างเร่งด่วน หลังนโยบายปลดล็อก “พืชกระท่อม” สร้างโจทย์ใหญ่ด้านความมั่นคงและสังคมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จัดกิจกรรมพิเศษ “จากใจ เลขาธิการ ศอ.บต. ขอบคุณสื่อมวลชนที่ขับเคลื่อนภารกิจยาเสพติดและกระท่อม” เพื่อเปิดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองและถอดบทเรียนการบริหารจัดการนโยบายดังกล่าว ยอมรับเป็นวาระสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข หลังพบเยาวชนเข้าถึงง่ายและเริ่มส่งผลกระทบต่อครอบครัวและชุมชน

     นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ได้รับมอบหมายเป็นผู้แทน พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานในการจัดกิจกรรมนี้ เพื่อกล่าวขอบคุณและให้กำลังใจแก่สื่อมวลชนที่ได้ทุ่มเทขับเคลื่อนภารกิจสำคัญด้านยาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นร้อนอย่าง “งาน 120 วัน วาระพืชกระท่อม” ซึ่งกำลังเป็นที่จับตาของสังคมในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

     นายอัมรัน แมหะ เลขาธิการสมาคมสื่อมวลชนเพื่อพัฒนาชายแดนภาคใต้ ผู้ดำเนินรายการ ได้กล่าวเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของสื่อมวลชนในการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสังคมเกี่ยวกับนโยบายปลดล็อกพืชกระท่อม ซึ่งแม้จะถูกถอดออกจากบัญชียาเสพติด แต่กลับสร้างความกังวลอย่างสูงในด้านสังคมและกลุ่มเยาวชนในพื้นที่

     เวทีเสวนาแรกในหัวข้อ “วาระพืชกระท่อม” ในมุมมองสื่อมวลชน 3 จังหวัด กลายเป็นโอกาสสำคัญที่สื่อมวลชนในพื้นที่ได้ร่วมกันสะท้อนสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจริงอย่างตรงไปตรงมา

ตัวแทนสื่อมวลชนที่ร่วมเสวนา ได้แก่

  • นางสาวมาศสุภา นาคสิงห์ (ผู้อำนวยการ NBT ยะลา)

  • นางสาวปฑิตตา โหนกกะโทด (ผู้สื่อข่าวจังหวัดนราธิวาส)

  • นายสาเล็ม ครู (ผู้แทนสื่อมวลชนจังหวัดปัตตานี)

  • นายคถาวุฒ แช่ม (ผู้แทนสื่อมวลชนจังหวัดยะลา)

ต่างประสานเสียงถึง “สภาพปัญหาการใช้พืชกระท่อมในกลุ่มเยาวชน” และการเข้าถึงที่ง่ายดายขึ้นอย่างน่ากังวล โดยชี้ว่า ปรากฏการณ์นี้ได้ส่งผลกระทบต่อ “ความมั่นคงทางสังคมและครอบครัว” ในจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยตรง ซึ่งกลายเป็นโจทย์ใหญ่และเร่งด่วนที่ ศอ.บต. และหน่วยงานความมั่นคงต้องรับมืออย่างมีประสิทธิภาพ

ในเวทีเสวนาที่สอง หัวข้อ “บทเรียนพืชกระท่อมและความคาดหวังต่อการสื่อสาร” ตัวแทนจาก ศอ.บต. นำโดย

  • นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ (ผอ. กองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง)

  • นายอิบรอเหม เบ็ญนา (ผอ. สำนักงานเลขานุการ ผอ.กสม.)

  • นายหัสนี เจ๊ะนิ (ผอ. กลุ่มงานอำนวยการและบริหาร กสม.)

  • นายสายนูดิน มามุ (หัวหน้างานคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและอำนวยความเป็นธรรม)

ได้ร่วมกันถอดบทเรียนการบริหารจัดการนโยบายพืชกระท่อม

     นางสาวมาศสุภา นาคสิงห์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดยะลา (NBT ยะลา) ได้เปิดเผย “มุมมองจากคนภาคกลาง” ที่เคยมีทัศนคติว่ากระท่อมเป็นเพียง “ยาเสพติด” มาก่อน ว่า ภาพที่ปรากฏภายหลังการประกาศปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดนั้นคือ “การเข้าถึงที่ง่ายดายและแพร่หลายเกินความคาดหมาย” โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน กลายเป็นประเด็นที่น่ากังวลอย่างยิ่ง

     หัวใจสำคัญของการป้องกันที่ ผอ. NBT ยะลา เน้นย้ำคือ “การสร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชนรับรู้โทษตั้งแต่เด็ก” โดยเสนอให้มีการผนึกกำลังกับหน่วยงานหลักอย่างกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเข้ามาควบคุมการใช้ให้ชัดเจน และเสริมสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับพิษภัยของกระท่อมในบริบทที่ถูกกฎหมาย

แม้จะชี้ให้เห็นถึงความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า แต่นางสาวมาศสุภา มองว่าการเดินหน้าทำงานร่วมกันระหว่าง ศอ.บต. และสื่อมวลชนในครั้งนี้ “เดินมาถูกทางแล้ว”

     อย่างไรก็ตาม ผอ. NBT ยะลา กล่าวทิ้งท้ายโดยตั้งคำถามถึงความยั่งยืนว่า ไม่ควรให้ความพยายามนี้จบลงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ เพียง “120 วัน” แต่ควรทำให้เป็นภารกิจต่อเนื่อง “ทำซ้ำ ๆ ทำบ่อย ๆ แล้วทำอะไรก็ได้ที่มันเข้าใจมากยิ่งขึ้น ง่ายมากยิ่งขึ้น”

     นายธีรวิทย์ ยืนยันว่า การขับเคลื่อนวาระกระท่อมของ ศอ.บต. จะดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น ตามทิศทางของรัฐบาลและนโยบายของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า “ท่านเลขาฯ ท่านก็เดินเรื่องนี้ต่อ… เราก็คงขับเคลื่อนเรื่องนี้ต่อ แต่ต้องขับเคลื่อนในเรื่องของเชิงคุณภาพ”

     สิ่งที่น่าสนใจคือการตั้งเป้าหมายเชิงรุกที่กำหนดกรอบเวลาชัดเจน โดย นายธีรวิทย์ เผยว่า มีความคาดหวังว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ หรือในอีก 3 เดือนข้างหน้า ศอ.บต. ต้องการ “เคลียร์เรื่องกระท่อม” และให้การขับเคลื่อนนี้เป็น “ของขวัญ” ให้กับพ่อแม่พี่น้องชาวจังหวัดชายแดนภาคใต้

“เราอยากจะคืนความสุข จริง ๆ อยากจะให้ครอบครัว อยากจะให้พื้นที่ได้เห็นว่า อีก 3 เดือน ช่วงปีใหม่ เราอยากจะเคลียร์เรื่องกระท่อม… ให้การขับเคลื่อนเรื่องกระท่อม เป็นของขวัญ ให้กับพ่อแม่พี่น้องชาวจังหวัดชายแดนภาคใต้” นายธีรวิทย์กล่าว พร้อมเสริมว่า การคืนความสุขนี้ต้องเป็นไปในลักษณะที่ชาวบ้าน “เห็นเอง รู้เอง” โดยไม่จำเป็นต้องใช้ตัวชี้วัดใด ๆ มากดดัน

     ในเชิงยุทธศาสตร์ นายธีรวิทย์ ได้วิเคราะห์สถานการณ์อย่างชัดเจนว่า ปัญหายาเสพติดในวันนี้ได้ “ยกระดับเป็นภัยความมั่นคง” และปัญหาพืชกระท่อมถูกมองว่าเป็น “มาถูกทาง” ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ เพราะในขณะที่ ศอ.บต. ให้ความสำคัญกับวาระกระท่อม ยาเสพติดชนิดอื่น ๆ เช่น ยาบ้า ยาไอซ์ ก็ “ถูกกระตุ้นเดือด” และเจ้าหน้าที่ก็ต้องถูกขับเคลื่อนเรื่องราวเหล่านั้นไปด้วย

“ปัญหายาเสพติดกับปัญหาสถานการณ์กับปัญหาความมั่นคงเนี่ย มันทักซ้อนกัน แบบแยกกันไม่ได้… ในอดีตเราอาจจะไปเป็นคู่ต่อสู้กับอีกกลุ่มนึง แต่วันนี้คู่ต่อสู้ของเราก็เป็นอีกกลุ่มนึง แต่เป็นกลุ่มที่หนุนเสริมซึ่งกันและกัน” ดังนั้น การทำเรื่องกระท่อม จึงถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะ “กระทบกับมิติอื่น ๆ” และสามารถสร้างแรงกดดันต่อขบวนการค้ายาเสพติดโดยรวมในพื้นที่ได้

     นายธีรวิทย์ ชี้แจงถึงบทบาทของ ศอ.บต. ในฐานะหน่วยงาน “ประสาน” ที่จะนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ โดยจะมีการบูรณาการกับทุกภาคส่วน ทั้งสื่อมวลชน ภาคศาสนา ภาคการศึกษา และหน่วยงานกำกับดูแลกฎหมาย

     นอกจากนี้ ยังมีการขอความร่วมมืออย่างตรงไปตรงมาจากภาคสื่อมวลชนของ ศอ.บต. ให้ “โฟกัส” และ “ชูประเด็นเรื่องกระท่อมให้ชัด” เนื่องจากเป็นประเด็นที่มีน้ำหนักและสามารถเป็นจุดเริ่มต้นในการไปแตะเรื่องอื่น ๆ ในอนาคตได้ง่ายกว่า

     นายธีรวิทย์ ทิ้งท้ายด้วยการเน้นย้ำถึง “พลังของสังคมสื่อ” ว่าเป็นสิ่งที่ ศอ.บต. มองว่า “มีพลังมาก มีบทบาทมาก และสามารถที่จะชี้นำได้” โดยหวังว่าพลังนี้จะถูกใช้ไปในทิศทางที่เหมาะสมที่สุดเพื่อสร้างความสมานฉันท์และทำให้บ้านเมืองดีขึ้น และยืนยันว่า ศอ.บต. จะไม่หยุดคุยเพียงปีละครั้ง แต่จะมีการหารือและทำงานร่วมกับสื่อมวลชนอย่างสม่ำเสมอในอนาคต

ภาพ/ข่าว
อับดุลหาดี เจ๊ะยอ
จ.ยะลา

 10,530 total views,  2 views today

You may have missed