ผู้ประสานงานกลุ่มแอดมินเพจและผู้สนับสนุนในการให้ทางรถฉุกเฉิน ยื่นหนังสือ ขอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาบทลงโทษใหม่สำหรับการไม่หลบให้ทางรถฉุกเฉิน

วันที่ 26 เมษายน 2561 เวลา 10.20 นาฬิกา ณ ห้องโถง อาคารรัฐสภา 1 นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่หนึ่ง รับหนังสือจากนายวีระกิจ อัครโชติวิทย์ และนายภาคภูมิ เดชหัสดิน ผู้ประสานงานกลุ่มแอดมินเพจและผู้สนับสนุนในการให้ทางรถฉุกเฉิน ประกอบด้วย เพจ Street Hero Project เพจ Drama Addict เพจหมอแล็บแพนด้า และเพจ Red Skull Airline เพื่อขอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาบทลงโทษใหม่สำหรับการไม่หลบให้ทางรถฉุกเฉิน เนื่องจากที่ผ่านมาได้เกิดกรณีการไม่หลบให้ทางรถฉุกเฉินหลายครั้ง ทำให้ชาวโซเชียลไม่พอใจบทลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 โดยเห็นว่าบทลงโทษไม่สอดคล้องและไม่ก่อให้เกิดความตระหนักในการให้ทางรถฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นผลให้ผู้ขับขี่บางรายไม่เห็นความสำคัญและขาดความรับผิดชอบต่อสังคม จึงเสนอบทลงโทษใหม่ ดังนี้

1. เพิ่มโทษปรับจากเดิม 500 บาท เป็น 10,000-20,000 บาท
2. เพิ่มโทษการพักใช้ใบอนุญาตการใช้ใบขับขี่ เป็นเวลา 1-3 เดือน และ
3. พิจารณาให้โทษผู้นั่งหน้ารถร่วมเป็นผู้กระทำความผิดด้วย
นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ได้กล่าวขอบคุณกลุ่มแอดมินเพจที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ทั้งนี้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยคณะกรรมการบูรณาการประสานงานกรณีกู้ชีพฉุกเฉิน ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาตลอด โดยร่วมกับ
มูลนิธิเมาไม่ขับและภาคีเครือข่าย จัดโครงการ “ให้ทาง = ช่วยชีวิต” ความดีที่คุณทำได้ และโครงการ “หยุดตายบนท้องถนน ด้วยอาสาตาจราจร” เพื่อรณรงค์ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน และปลูกจิตสำนึกของสังคมไทยให้ตื่นตัวมากขึ้นโดยเฉพาะการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อนำไปสู่การติดตามดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎหมายจราจร ซึ่งจะได้นำข้อเสนอของกลุ่มแอดมินเพจรวมกับข้อเสนอของคณะกรรมการบูรณาการประสานงานกรณีกู้ชีพฉุกเฉิน ส่งต่อให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณา โดยขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามว่าถ้าผลของการไม่หลบให้ทางรถฉุกเฉินเป็นอุปสรรคทำให้การส่งผู้ป่วยล่าช้า เช่น ผู้สมองตีบ หัวใจวาย ส่งผลให้เกิดการสูญเสียให้แจ้งข้อหาเพิ่มเติม คือการขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสหรือถึงแก่ชีวิต รวมถึงให้พิจารณามาตราอื่น ๆ ตาม
พะราชบัญญัติการจราจร พ.ศ. 2522 อาทิ การขับรถที่ส่อในไปทางที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่นโดยให้
มีความผิดมากขึ้น ทั้งนี้ หากผลเป็นประการใดจะสื่อสารให้สังคมได้รับทราบต่อไป

SPMCNEWS รายงาน

 810 total views,  4 views today