นักศึกษาเกษตร ม.ราชภัฏยะลา ตั้งกลุ่ม Boos เกษตร “เพาะเลี้ยงไส้เดือน” สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ สู้ชีวิตในช่วงวิกฤตโควิด

นักศึกษาคณะเกษตร ม.ราชภัฏยะลา ตั้งกลุ่ม Boos เกษตร “เพาะเลี้ยงไส้เดือน” สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ สู้ชีวิตในช่วงวิกฤตโควิด-19

หากพูดถึง ไส้เดือน หลายคนอาจจะไม่ค่อยชอบเท่าที่ควร แต่ไส้เดือนตัวแดงๆ ที่เหมือนจะไม่น่ารักเหล่านี้คือ แหล่งสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเป็นอย่างดี ซึ่งการเพาะเลี้ยง ไส้เดือนไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ อาชีพนี้อยู่คู่กับชาวเกษรตกรในพื้นที่มาอย่างยาวนานแล้ว เพียงแต่หลายคนทำแล้วสำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง ปัจจัยสู่ความสำเร็จนั้นก็แตกต่างกันไป
นักศึกษาคณะเกษตรศาสตร์ ม.ราชภัฏยะลา สร้างรายได้ในช่วงวิกฤตโควิด-19 หลังพบข้อมูลจากเพจ BOSS เกษตร มีการแนะนำการเพาะเลี้ยงไส้เดือน จึงได้ลงมือทำเพาะเลี้ยงไส้เดือนในบ้านว่างเปล่าหลังหนึ่ง ภายในซอยเย็นอากาศ 2 เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา พบว่ามีกลุ่ม BOSS เกษตร โดยมี น.ส.สุไลลา หะหลี อายุ 25 ปี นักศึกษา ชั้นปีที่ 3 สาขาเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มและมีน้องๆอีกหลายคนจากหลายโรงเรียนมัธยมศึกษาในพื้นที่มาร่วมสร้างอาชีพกันเพาะไส้เดือน
และได้สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ นำเงินเป็นทุนการศึกษา และนำเงินเข้าครอบครัวเป็นเงินถึง 20,000 – 30,000 ต่อเดือน สู้วิกฤตในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วย

วิธีการเพาะเลี้ยงไส้เดือน ไม่ยุ่งยาก ขั้นตอนดังนี้
1.เทไส้เดือน เบดดิ้ง ลงกล่องเลี้ยง ฉีดพรมน้ำเล็กน้อย
2.วางในที่ร่ม อากาศถ่ายเทสะดวก
3.ฉีดพรมน้ำเล็กน้อยวันเว้นวัน หรือสังเกตุหน้าเบดดิ้งเริ่มแห้งให้ฉีดพรมได้เลย
4.หากใช้ผัก(ไม่เผ็ดร้อน)/ผลไม้ (ไม่เปรี้ยว) หั่นหรือฉีกให้มีขนาดเล็ก ให้ทีละน้อย ขุดฝังและกลบให้มิดกันแมลงวัน ใบไม้เน่าผุ สามารถวางกลบไว้หน้าเบดดิ้งได้
5.ระยะเวลาร่อนมูลใช้ Blueworm – 1 เดือน ,AF 2 – 3 สัปดาห์ *สังเกตุมูลไส้เดือนจะเป็นเม็ดๆเล็กๆคล้ายเม็ดข้าวสาร สามารถใช้ตะกร้าที่มีรูถี่ร่อนได้เลยค่ะ งดเว้นการให้น้ำ 2 – 3 วัน มูลจะได้ไม่ติดรูตะแกรง
สำหรับประโยชน์ไส้เดือน สามารถช่วยปรับสภาพดินให้ดีขึ้น ไม่ทำให้เกิดรากไหม้ในพืชแม้จะใช้ในปริมาณมาก ไม่มีกลิ่นและยังช่วยในการดับกลิ่น ช่วยปรับสภาพน้ำในบ่อเลี้ยงกุ้งให้สะอาดและใส่ ช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้นและที่สำคัญสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและช่วยในการกำจัดแมลงอีกด้วย
สำหรับตัว“ไส้เดือน”ตอนนี้จะมีสายพันธุ์ BLUE สายพันธุ์ AF และสายพันธ์ุ EURO สำหรับสายพันธุ์ BLUE จะให้มูลละเอียดมีกลิ่นหอม สายพันธุ์ AF จะมีกลิ่นเหม็น ส่วนพันธุ์ EURO.

ไม่แตกต่างจาก 2 สายพันธุ์แรกสักเท่าไร ลูกค้าส่วนใหญ่จะมาจากติ๊กต็อก จากกลุ่มไส้เดือน ในราคาตัว
“ไส้เดือน” 1 กิโลกรัม ราคา 400 บาท มูลไส้เดือน ราคากิโลกรัมล่ะ 25 บาท

อับดุลหาดี รายงาน

 1,142 total views,  2 views today