กอ.รมน.ชี้แจงกรณีเหตุปะทะ พบคนร้าย 2 ราย ที่เสียชีวิตเป็นแกนนำระดับปฏิบัติการ มีหมายจับเพียบ
เมื่อ 10 เมษายน 2561 เวลา 1325 นาฬิกา ขณะที่เจ้าหน้าตำรวจชุดปฏิบัติการสืบสวนสถานีตำรวจภูธรยะรัง จำนวน 8 นาย เดินทางปฏิบัติหน้าที่ด้วยรถกระบะ จำนวน 2 คัน เพื่อปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ เมื่อเดินทางถึงบริเวณที่เกิดเหตุถนนสายระแว้ง-สะนอ บ้านระแว้ง ตำบลระแว้ง อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี ได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัย จำนวน 3 คน กำลังจอดรถจักรยานยนต์พูดคุยกันอยู่ริมถนนท่าทางมีพิรุธ จึงได้แสดงตัวขอทำการตรวจสอบ แต่บุคคลต้องสงสัย 2 คน ได้ใช้อาวุธปืนพก ขนาด 9 มิลลิเมตร ยิงใส่เจ้าหน้าที่ทำให้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย จากนั้นคนร้ายจำนวน 1 คน ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ส่วนอีกจำนวน 2 คน ได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในสวนยางพารา เจ้าหน้าที่จึงติดตาม และเกิดการปะทะกันขึ้น ภายหลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ คนร้ายเสียชีวิตจำนวน 2 คน ทราบชื่อคือ นายซอบือรี เจะหะ กับ นายยูโซ๊ะ เจ๊ะหลง พร้อมอาวุธปืนพก ขนาด 9 มิลลิเมตร จำนวน 2 กระบอก และระเบิดขว้างแบบมาตรฐาน เอ็ม – 67 จำนวน 1 ลูก
จากกรณีเหตุการณ์ดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอชี้แจง ดังนี้.-
- พฤติกรรม นายซอบือรี เจะหะ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94/1 บ้านน้ำใส หมู่ที่ 5 ตำบลลุโบะยิไร อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี เป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ เป็นบุคคลตามหมายจับ ป.วิอาญา ศาลจังหวัดปัตตานี จำนวน 18 หมาย เคยถูกควบคุมตัวมาแล้ว จำนวน 4 ครั้ง เคยก่อเหตุอุกอาจในหลายๆ พื้นที่ จังหวัดปัตตานี ซึ่งยืนยันจาก CCTV ที่ชัดเจน ได้แก่ เมื่อ 28 ต.ค.59 ลอบยิง นางสาวสุณิสา บุญเย็น ครูอัตราจ้าง กศน.มายอ เสียชีวิต และนางสาว ชฏพร ศรีเส้ง ลูกจ้าง กศน.มายอ ได้รับบาดเจ็บ
- พฤติกรรม นายยูโซ๊ะ เจ๊ะหลง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ที่ 4 ตำบลบางอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เป็นสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงรุ่นใหม่ เป็นบุคคลตามหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 3 หมาย คดีที่สำคัญได้แก่เหตุลอบยิง นายอูมา อีแต ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลประจัน อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี เสียชีวิต เมื่อ 22 มกราคม 2561
- จากพฤติกรรมของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ได้สร้างความเดือดร้อนที่ทำให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่และพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลจากการปฏิบัติดังกล่าวเกิดจากการพบพิรุธของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เตรียมการเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ และได้เกิดการยิงปะทะจนนำไปสู่การสูญเสีย
- พลโท ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ขอแสดงความเสียใจมายังญาติผู้สูญเสียทั้ง 2 ราย การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามขั้นตอน แต่ผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ใช้อาวุธยิงใส่เจ้าหน้าที่ก่อน ประกอบกับผู้ก่อเหตุรุนแรงมีหมายจับหลายหมาย และเคยก่อเหตุคดีความมั่นคงมาหลายเหตุการณ์ จึงมีความจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย และขอเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งปฏิบัติด้วยความกล้าหาญ มีไหวพริบในการทำงาน จนสามารถยับยั้งเหตุไม่ให้มีการสูญเสียเพิ่มขึ้น
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงยึดมั่นในหลักการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด เที่ยงธรรม ยึดหลักสิทธิมนุษยชนต่อผู้ก่อเหตุรุนแรงที่กระทำความผิดทุกกรณี และยังเปิดโอกาสช่องทางให้ผู้ที่หลงผิดกลับมาต่อสู้คดีตามโครงการพาคนกลับบ้าน เพื่อมาใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว และร่วมกันสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
ภาพ/ข่าว/อับดุลหาดี เจ๊ะยอ จ.ยะลา
1,199 total views, 2 views today
More Stories
เลขาฯ รมต.ยุติธรรม ชี้ มหกรรมแก้หนี้ ปลดหนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม แก้ปัญหาหนี้สิน 242 ล้าน
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเป็นประธานเปิดป้ายอาคารเรียนและอาคารปฏิบัติการ วิทยาลัยการอาชีพเบตง
เทศบาลเมืองปัตตานีจัดกิจกรรมสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่อยอดกิจกรรมการเรียนรู้ภายในศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของอุทยานการเรียนรู้ปัตตานี