ผอ.ศปพร.ขับเคลื่อนงานโครงการฟาร์มตัวอย่าง ตามพระราชดำริ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ปลูกสมุนไพรไทย ต้านภัยโควิด19

20 สิงหาคม 2564 เวลา พลตรีไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15/ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมด้วย พันเอก ภัทรชัย แทนขำ รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เดินทางลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมการขับเคลื่อนโครงการฟาร์มตัวอย่าง ตามพระราชดำริ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ปลูกสมุนไพรไทย ต้านภัยโควิด19 ณ โครงการฟาร์มตัวอย่าง ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ บ้านควนหรัน ตำบลเปียน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา โดยมี พันเอก ยุทธนาม เพชรม่วง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจสงขลา ปลัดอำเภอสะบ้าย้อย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเปียน ร้อยตำรวจเอก เจษฎาวุธ เพ็งลาย ผู้จัดการฟาร์มตัวอย่างฯ และสมาชิกฟาร์มตัวอย่างร่วมให้การต้อนรับ

โดยศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริบูรณาการร่วมกับ ศูนย์เรียนรู้กสิกรรมไทยบ้านภูริตา และสมาพันเกษตรกรรมยั่งยืน สงขลา จัดทำปฏิญญาควนหรัน ( KUAN RAN DECLARATION) สงขลามหานครเกษตรอินทรีย์
ว่าด้วยความร่วมมือพันธมิตร ระหว่างฟาร์มตัวอย่างบ้านควนหรัน เครือข่ายชุมชน 9 ตำบล และสถานศึกษา ในอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เพื่อขับเคลื่อนงานโครงการฟาร์มตัวอย่าง ตามพระราชดำริฯ ปลูกสมุนไพรไทย ต้านภัยโควิด19 โดยปลูกแปลงสมุนไพร 1 ตำบล 1 แปลงสมุนไพรต้นแบบ ต้านภัยโควิด 19 ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน ด้วยปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังประสบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรง และขยายวงกว้างไปทั่วทั้งประเทศ ส่งผลให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนในทุกพื้นที่ รวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4  อำเภอของจังหวัดสงขลา ก็มียอดผู้ติดเชื้อโควิด 19  ในห้วง   2-3 เดือนที่ผ่านมา ติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศ
เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (ศปพร.) ได้เล็งเห็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ จึงได้จัดทำโครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริ ในสมเด็จ   พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ปลูกพืชสมุนไพรไทย ต้านภัยโควิด 19 โดยส่งเสริมปลูกพืชสมุนไพรไทย ได้แก่ การปลูกฟ้าทะลายโจร กระชายขาว และขิง เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน 2564 เป็นต้นมา ซึ่งศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (ศปพร.) มีโนบายส่งเสริมให้โครงการฟาร์มตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ บ้านควนหรัน ขับเคลื่อนการปลูกสมุนไพรไทย โดยเฉพาะฟ้าทะลายโจร กระชายขาว ขิง เป็นต้น  เพื่อนนำร่องเป็นแปลงต้นแบบขยายผลไปสู่สมาชิกฟาร์ม หนึ่งครัวเรือนหนึ่งแปลงสมุนไพร ตลอดถึงเครือข่ายฟาร์มและชุมชนที่สนใจ และในปัจจุบันได้มีหลายชุมชนมาศึกษาเรียนรู้ ตลอดถึงส่วนราชการต่างๆ เพื่อนำไปเพาะปลูกทำแปลงสมุนไพรรูปแบบเดียวกับของฟาร์มตัวอย่างฯ บ้านควนหรัน

ทั้งนี้ พลตรีไพศาล หนูสังข์ กล่าวว่า ที่ผ่านศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้เข้ามาดูแล และให้การสนับสนุนทั้งทางด้านนโยบาย และอุปกรณ์เกี่ยวกับการเกษตร ตลอดจนถึงการประสานงานให้หน่วยงานราชการ และภาคเอกชนเข้ามาให้การสนับสนุน ซึ่งโครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริ ฯนอกจากการปลูกเพื่อกินเป็นยาสามัญประจำบ้านรักษาภายในครัวเรือนแล้ว  จากการทำแบบเกษตรอินทรีย์ของฟาร์มตัวอย่างฯ ซึ่งเป็นการทำการเกษตรแบบธรรมชาติไม่ใช้สารเคมี ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาด  ตอนนี้สมุนไพรตากแห้ง ขายได้ราคา กิโลกรัมละ 300 บาท  เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับสมาชิกฟาร์มฯ อีกช่องทางหนึ่ง ในอนาคตสามารถพัฒนาต่อยอด สมุนไพรไทย  ให้แปรรูปเป็นชา และแคปซูล เพื่อให้ง่ายสำหรับการรับประทานของผู้บริโภค ต่อไป โดยคาดหวังว่าโครงการนี้จะเป็นการสร้างอาชีพหลัก หรือเป็นพืชเสริม เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้กับสมาชิกและเกษตรกรในพื้นที่ รวมทั้งสนับสนุนผลผลิต  ฟ้าทะลายโจรให้เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น เป็นการรักษาเสถียรภาพด้านปริมาณ และราคาให้เกิดความสมดุล และให้มีการใช้พืชสมุนไพรไทย เป็นทางเลือกในการบำบัด ควบคุม และรักษาโรคเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นสมุนไพรมีสรรพคุณ ที่ช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ได้หลายโรค จึงได้ผลักดันให้โครงการฟาร์มตัวอย่างอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นแหล่งผลิตสมุนไพรปลอดสารพิษ และจะสามารถต่อยอดเป็นทั้งแหล่งผลิต และแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ส่งผลให้สมาชิกมีรายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อไป

จากผลการศึกษาวิจัยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องสมุนไพรไทยเพื่อใช้เป็นยาทางเลือกในการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ล่าสุดพบว่า ฟ้าทะลายโจรสามารถยับยั้งเชื้อไวรัสและมีฤทธิ์ต้านการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัส หากนำมาใช้รักษาร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบันในผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีระดับความรุนแรงน้อย และไม่มีภาวะปอดอักเสบ (หายใจเหนื่อยหอบ เจ็บหน้าอกเมื่อหายใจเข้า ไอเสมหะ หายใจลำบาก) ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอาการดีขึ้นตามลำดับ และแทบไม่พบผลข้างเคียงอีกด้วย แต่ต้องได้รับฟ้าทะลายโจรเร็วที่สุดจึงจะมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีวิธีกินฟ้าทะลายโจรสด (สำหรับผู้ป่วยที่ไม่มีโรคประจำตัว และอายุ 12 ปีขึ้นไป) ควรรับประทานให้เร็วที่สุดหลังติดเชื้อหรือมีอาการ โดยกินใบฟ้าทะลายโจร   แบบสดจากต้นที่มีอายุ 3 เดือนขึ้นไป โดยเคี้ยวใบฟ้าทะลายโจร 10 ใบต่อมื้อ จำนวน 3 มื้อต่อวัน ติดต่อกันจำนวน 5 วัน หรือ กินแบบต้มก็ได้ ต้องกินทั้งน้ำ และใบให้หมด โดยใช้จำนวนเท่ากัน คือ 10 ใบต่อมื้อ กิน 3 มื้อต่อวัน ติดต่อกันจำนวน 5 วัน แต่ห้ามไม่ให้ หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร หรือผู้แพ้ฟ้าทะลายโจร กิน  และมีข้อควรระวังคือ การกินฟ้าทะลายโจรร่วมกับยา warfarin aspirin clopidogrel ยาลดความดันโลหิต

 3,972 total views,  2 views today