#ทุกภาคส่วนส่งกำลังใจหมอสุภัทรและคณะ รพ .จะนะ ในภารกิจ โควิด สนามมวยจะนะ

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
Shukur2003@yahoo.co.uk
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัดและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

วันที่ 15 เมษายน ตั้งแต่เวลา เวลา 10:00 น.ได้มีการนัดกลุ่มเสี่ยงคนจะนะที่มาเชียร์มวย หรือเจ้าหน้าที่ อส ตำรวจ ฝ่ายปกครอง มาตรวจ swab หาเชื้อโควิดที่โรงพยาบาลจะนะ 258 คนก่อน (หากเจอพบเชื้อจะนัดหมายชาวบ้านที่มาเขียร์มวยทั้งหมดราวมากกว่า 500คน มาตรวจเขื้อโควิดต่อไปให้ครบถ้วน )
การที่โรงพยาบาลจะนะได้นัดกลุ่มดังกล่าวเพราะทางเพราะก่อนหน้านี้หนึ่งวันได้รับแจ้งจากสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ว่า คนติดโควิดก่อนหน้านี้เดินทางชมมหกรรมมวยจะนะทำให้การจัดมวย ที่จะนถูกวิจารณ์หนักถึงความไม่เหมาะสม และหลายภาคส่วนให้ผู้จัดรับผิดชอบโดยเฉพาะพุ่งตรงไปที่นายนิพนธ์ บุญญามณีและเลขาธิการศอ.บต.
อย่างไรก็แล้วแต่ช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน 2564 มีข่าวในโลกโซเชี่ยลถูกส่งต่อว่า

“ไทม์ไลน์เดิมของผู้ติดเชื้อเดิมทั้งสองรายไม่ปรากฏว่าไปสนามมวยจะนะ “ ทำให้การตั้งคำถามในโลกโซเชี่ยล อย่างมาก โดยพาดหัวข่าวว่า
“ไทม์ไลน์เดิมที่หายไป ไทม์ไลน์ใหม่ไฉไลกว่าเดิม”…
“คำถาม คือ ไทม์ไลน์สนามมวยจู่ๆแก้ใหม่ แล้วหายไปไหน”
…ก่อนหน้านี้ การจัดมวย ที่จะนะ ถูกวิจารณ์หนักถึงความไม่เหมาะสม จัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 เมษาที่ผ่านมา ท่ามกลางโควิดกำลังระบาด ถ้าย้อนไปดูภาพในงานคือคนมหาศาลและยืนกันแน่นมาก ที่สำคัญการจัดงานนี้มีรัฐมนตรีมาเกี่ยวข้องด้วย
…ปรากฎต่อมา มีคนติดโควิดรายที่ 36 และ 38 และมีไทม์ไลน์ว่าทั้ง2คน โผล่อยู่ในงานมวยนี้ด้วย
…พีคคือต่อมา มีการแก้ไขไทม์ไลน์ใหม่…#สนามมวยจะนะก็หายไป…
คำถาม คือ – ทำไมไทม์ไลน์นี้ถึงหายไป?
– เป็นห่วงผู้จัดงานมากกว่าประชาชนสังคมประเทศชาติ หรือ ?
– ปกป้องผู้จัดงาน หรือ ประชาชน ?
-หรือ ข้อมูลผิดพลาดคลาดเคลื่อนเลยแก้ไขให้ถูกต้อง?

ในขณะที่มีมุสลิมท่านหนึ่งในอำเภอสิงหนครติดโควิด ก่อนหน้านี้ไปเที่ยวแหล่งบันเทิงและเมื่อบ้านได้ไปปฏิบัติศาสนกิจที่มัสยิดโดยไม่สวมเมส สร้างความเสียหายให้คนในชุมชนอย่างยิ่งดังนั้นจึงไปแปลกที่สำนักจุฬาราชมนตรีประกาศปิดมัสยิดเพราะมัสยิดเป็นที่สาธารณะ ที่รวมคนหมู่มากอยากแก่การคุมมาตราการโควิดอย่างเข้มงวด
สำหรับมุสลิมแล้ว “แม้จะทราบดีว่า การปิดมัสยิดครั้งนี้เป็นผลจากคนไปเที่ยวผับ บาร์ ไม่เกี่ยวกับมัสยิด การที่สำนักจุฬาราชมนตรี ประกาศ มาตรการการต่างๆเป็นปีที่สองแล้ว ในเดือนรอมฎอนและปีนี้ ผม และมุสลิมสงขลาพึ่งได้ละหมาด ได้คืนเดียว ในรอมฎอนซึ่งปีที่แล้วไม่ได้สักคืน ใจหนึ่งอาจทำใจไม่ได้ แต่การที่มุสลิมต้องมีหน้าที่อีกหน้าที่หนึ่งต่อสังคม วันนี้คงชัดเจน ในมัสยิดที่รวมคนมากๆ ซึ่งมิใช่ง่ายจะแสกน คน อย่างไรก็แล้วแต่เราต้องอดทน ผลบุญที่เราได้รับมีสองสามส่วน หนึ่งถือศีลอด สองปฏิบัติตามผู้นำ และสามสำนคกในห้าที่สังคมส่วนรวม ขอยำ้ว่าแม้มัสยิดจะถูกปิดแต่ประตูความดีของพระเจ้ายังเปิดเสมออยู่ที่เราต่างหาก ขอพรให้เราชนะไปด้วยกัน และหวังว่าจะได้ละหมาดตะรอเวียะ ละหมาดอีกร่วมกัน
หรือผู้รู้ศาสนาท่านหนึ่งกล่าวว่า “ประตูเข้าสู่มัสยิดอาจจะถูกปิดชั่วคราว เพราะสถานการณ์โควิด
แต่ประตูเข้าสู่อัลกุรอานอาจจะถูกปิดถาวร เพราะสถานการณ์หัวใจที่บอด”
หมายเหตุ
1.รายงาน
สงขลาจากปิดผับสู่มัสยิด เซ่นพิษโควิดคนเที่ยว อบายมุข/อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ http://spmcnews.com/?p=38961