เวลา 09.00 -14.00 น. วันที่ 3 เม.ย.2564 ที่ห้องประชุมโรงแรมอิมพีเรียล อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พรรคประชาชาติ ได้ให้การจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ครั้งที่ 1 และจัดการสัมนาตามมาตรา 23 แห่ง พ.ร.ป.พรรคการเมือง พ.ศ.2560 ซึ่ง นำโดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานการประชุม จากนั้นเป็นการสัมมนาเรื่อง “รัฐธรรมนูญที่ประชาชนใฝ่หา” โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง กรรมาธิการวิสามัญแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายกูเฮง ยาวอหะซัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คุณกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผศ.ดร.วรวิทย์ บารู อดีตสมาชิกวุฒิสภา คุณอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และอดีต ส.ส.นราธิวาส ผู้ดำเนินการอภิปราย โดย คุณนัจมุดดีน อูมา อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2540 และในช่วงบ่าย กำหนดการมีการแบ่งกลุ่มอภิปราย ก่อนจะมีปิดการประชุมใหญ่ฯ และปิดการสัมมนาในเวลา 14.00 น.
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ได้กล่าวกับสมาชิกพรรคประชาติ ที่เข้าร่วมเกือบ 500 คน ประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคประชาชาติครั้งที่ 1/2564 ว่าก่อนการลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อ 11 กันยายน 2563 ได้ทำหน้าที่ครั้งสุดท้าย คือ อภิปรายเพื่อขับไล่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ วันที่ 12 กันยายน 2563 พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ได้รับลูกและทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทดแทนอย่างมีเกียรติและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในบรรดาพรรคฝ่ายค้านและพี่น้องประชาชนโดยรวม
“ผมไม่ผิดหวังที่ได้เสียสละตำแหน่งให้กับบุคคลที่เหมาะสมของพวกเรา เพื่อทำหน้าที่ต่อและหลังจากนี้ ยังคงจะทำหน้าที่ที่ได้สัญญาไว้กับประชาชนอย่างต่อเนื่องประกอบด้วย (1) การขับไล่เผด็จการเพื่อมิให้สืบทอดอำนาจ และ (2) การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นของประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันไม่เป็นประชาธิปไตยและมีที่มาที่ไม่ปกติและยอมรับว่า หน้าที่ทั้ง 2 ประการ ยังไม่แล้วเสร็จ หรือ
ยังไม่จบสิ้น ”
“การต่อสู้ยังคงต้องดำเนินการต่อไปและชัยชนะคงอยู่อีกไม่นานและมั่นใจมากว่าต่อแต่นี้ไปการต่อสู้ของประชาชนจะเข้มข้นขึ้นเป็นลำดับ”
“ถ้ารัฐบาลมีที่ดีและมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อประชาชนและอยู่ครบ 4 ปี ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อประชาชนได้ แต่ภายใต้รัฐบาลที่ตระบัดสัตย์ ไม่รักษาสัญญา หรือ ไม่รักษาคำพูดอย่างรัฐบาลปัจจุบัน จึงไม่สามารถที่จะแก้รัฐธรรมนูญได้ทั้งๆที่กำลังจะเข้าวาระที่ 3″ ” พรรคประชาชาติ เป็นพรรคเล็ก ก่อตั้งไม่ถึง 3 ปี ถ้าเป็นเด็กก็เพิ่งจะหัดเดิน แต่พรรคประชาชาติโชคดีที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพันธุ์ดี ฉลาดและทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมทั้งในและนอกสภา อีกทั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 6 คน ที่เหลืออยู่ทำหน้าที่อย่างเปิดเผย และไม่ทอดทิ้งประชาชน”
จากนั้นทีม ส.ส.บัญชีรายชื่อ อาทิ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ และ ส.ส.ในพรรค นายกูเฮง ยาวอหะซัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผศ.ดร.วรวิทย์ บารู อดีตสมาชิกวุฒิสภา นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และอดีต ส.ส.นราธิวาส ได้พูดกล่าวกับสมาชิกพรรค ต่อบทบาทการทำหน้าที่ เพื่อประชาชน
ซึ่งโดยประเด็นน่าสนใจ นายกูเฮง ยาวอหะซัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาติ จ.นราธิวาส ได้กล่าวถึง ความไม่เข้าใจ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะการศึกษา กับเอกชน ปอเนาะ หรือตาดีกา ภาคความมั่นคง แหล่งเพาะก่อการร้าย ยังมองเป็นเรื่อง กระทบต่อความมั่นคง ทั้งที่แท้จริง การศึกษาคือ การส่งเสริมความมั่นคง อาทิ สถาบันการศึกษาปอเนาะหรือ โรงเรียนเอกชนสอนอิสลาม เป็นรากหญ้าเข้าถึงวิถีชีวิตคนพื้นที่ อาจไม่ใช่เรื่องสร้างอาชีพ แต่จะบอกว่า เป็นสถานที่สอนคน เป็นคดี มีจริยธรรม ศิลธรรม แข่งทำมาหากินในอาชีพใด คนถ้าไร้ซึ่งคุณธรรม ความดี อาชีพไหน ก็ไร้คุณธรรม ความดี ฉะนั้นรัฐบาลควรมองเสียใหม่ ปอเนาะ หรือเอกชน โรงเรียนตาดีกา รัฐต้องเข้าไปหนุนเสริม เติมเต็มในสถานศึกษานั้น เพราะโรงเรียนศาสนาส่วนใหญ่ สอนคนเป็นคนดี มีคุณธรรม สู่สังคม ไม่ใช่วันๆมานั่งจับผิด ควรคิดพัฒนาดีกว่า ที่ไหนมีคนดี คนชั่ว ใครผิดว่าไปตามกระบวนการของกฎหมาย ไม่ใช่นั่งเหวี่ยงแหกัน เหมารวม
ด้านนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.พรรคประชาติ จังหวัดนราธิวาส อีกคน ได้กล่าวว่า ถึงคดีความมั่นคง กรณีเคส บนเขาตะแวะ คดีที่ถูกคนกล่าวถึง สำคัญเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโจร จนเป็นเหตุให้ชาวบ้านที่ตัดไม้บนเขาตะเว อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เสียชีวิต 3 ราย ในส่วนคดี มีความคืบหน้า อยู่ในชั้นศาลจังหวัด นราธิวาส มีผู้ต้องหา ที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ 2 นาย ตกเป็นจำเลย ส่วนคดีความก็ต้องว่ากันต่อไป จะเกิดความเป็นธรรมต่อความรู้สึกประชาชนหรือไม่ ก็ต้องติดตามกันต่อไป
ต่อมานายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หน.พรรคประชาชาติ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ในนามพรรคของประชาชน ตลอดระยะเวลา 2 ปี อายุพรรค ได้ทำหน้าที่ ทั้งบทบาทในสภาและนอกสภา ทั้งมวลนั่น เพื่อนำความถูกต้อง เราจะสู่กับอำนาจเผด็จการ ทุกมิติ ด้วยสันติวิธี เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจของประชาชน ที่เป็นตัวจริง และจะต้องมีรัฐธรรมนูญที่ดี และสอดคล้องกับประชาชนทุกชาติพันธ์ในประเทศ อาทิ สิทธิเสรีภาพและสวัสดิภาพ ความปลอดภัย และเรื่องอื่น อย่างเท่าเทียม แม้กฎหมายที่พรรคร่วมฝ่ายค้านและพรรคที่เข้าร่วมได้ เสนอร่างรัฐธรรมนูญ เข้าสู่วาระ 1-2 ผ่าน แต่พอวาระ 3 กลับโดน ส.ส.ซีกรัฐบาล และ ส.ส.จัดตั้ง โดยอำนาจ คสช.250 คน ไม่รับและคว่ำ แต่พรรคก็จะเดินหน้า เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต่อไป สงครามยังไม่เลิกการต่อสู้ ต้องมีต่อไป เน้นกระบวนการด้วยสันติวิธี และแม้ว่า ร่างถูกตีตกไป แต่พรรค หรือ ส.ส.ฝ่ายค้าน จะพิจารณานำเสนอบางมาตรา ที่จำเป็น เพื่อแก้ไขบางมาตรา เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนภาครวมต่อไป
ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวกับกับผู้สื่อข่าวว่า การจะทำประชาธิปไตย ต้องปิดอำนาจเผด็จการ ด้วยการคืนอำนาจที่แท้จริง คือำนาจปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า มิใช่การผูกขาดอำนาจ ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ที่มาของแต่ละคนแต่ละฝ่ายที่มาทำหน้าที่ ปกครองและบริหารประเทศ เริ่มจากที่มาของบุคคลที่มาทำหน้าที่ ต้องมาจากประชาชนเลือกมา โดยเฉพาะอำนาจเงียบ อำนาจแฝง หรือ คสช.แต่งตั้ง ส.ว.มาดำรงตำแหน่งทางการเมือง แล้วให้อำนาจเลือกนายกรัฐมนตรี และที่ผ่านมา กลุ่ม ส.ว.แสดงอิทธิฤทธิ์ เช่นกรณี หากกฎหมายใด จะนำสู่การปฎิรูปประเทศ เช่น ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมาก็ใช่เสียงที่มีจำนวนมาก โหวตคว่ำ อย่างที่ปรากฏดับฝันประชาชนเจ้าของประเทศในทันใด
นอกจากนั้น พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ยังกล่าวเพิ่มเติม อีกว่า รัฐบาลปัจจุบัน พยายามกระจุกและทำเป็นศูนย์อำนาจมาที่ส่วนกลาง เป็นการบริหารที่สร้างปัญหาในระยะยาว จึงขอให้รัฐบาล ทบทวนและวางยุทธศาสตร์การบริการประเทศ ด้วยการกระจายอำนาจให้ทั่วถึง ภูมิภาคและท้องถิ่น ท้องที่ ลดความเหลือมล้ำ อำนวยความยุตธรรมให้เกิดขึ้นในทุกมิติ ให้เกิดขึ้นกับประชาชนทุกชาติพันธ์ ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะนับถือศาสนาไหน และดูแลปากท้องประชาชนให้อยู่ดี กินดี ประเทศจึงจะเกิดความสงบสุข ตามระบอบประชาธิปไตย ที่มีประชาชนตัวจริง ผู้ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ พ.ต.อ.ทวี กล่าวทิ้งท้าย
3,432 total views, 4 views today
More Stories
เลขาฯ รมต.ยุติธรรม ชี้ มหกรรมแก้หนี้ ปลดหนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม แก้ปัญหาหนี้สิน 242 ล้าน
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเป็นประธานเปิดป้ายอาคารเรียนและอาคารปฏิบัติการ วิทยาลัยการอาชีพเบตง
เทศบาลเมืองปัตตานีจัดกิจกรรมสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่อยอดกิจกรรมการเรียนรู้ภายในศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของอุทยานการเรียนรู้ปัตตานี