เมษายน 19, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

“โคกสะตอ” จากหนึ่งในตำบลเสี่ยงที่มีผู้ติดเชื้อ สู่การสร้างชุมชนเข้มแข็งผนึกความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพื่อเอาชนะโควิด-19

แชร์เลย

ทีมข่าวเฉพาะกิจ รายงาน..


( 26 พฤษภาคม 2563) แม้ว่าภาพบรรยากาศการละหมาดรายออีฎิ้ลฟิตตรี ฮิจเราะห์ศักราช 1441 ของพี่น้องมุสลิมในปีนี้อาจมีความแตกต่างจากปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะแนวทางการปฏิบัติที่เข้มงวดสอดรับกับมาตรการของสำนักจุฬาราชมนตรีและมาตรการของจังหวัดในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยหลายมัสยิดได้มีการเริ่มละหมาดวันศุกร์ตามมาตรการการผ่อนปรน และในวันรายอที่ผ่านมาหลายมัสยิดก็ได้มีการจัดละหมาดรายอ ทั้งนี้ก็ยังคงยึดมาตรการการป้องกันที่เข้มงวด ในขณะเดียวกันก็ได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการปฏิบัติตามเป็นอย่างดี


สำหรับบ้านตะบิงรูโต๊ะ หมู่ที่ 8 ตำบลโคกสะตอ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ได้มีการจัดการละหมาดวันรายอตามมาตรการผ่อนปรนและมีการปฏิบัติตามกฎมาตรการการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ซึ่งข้อมูล ณ ปัจจุบัน ตำบลโคกสะตอพบว่าเคยมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 3 ราย ทั้งหมดเข้ารับการรักษาตัวจนหายเป็นปกติ และยังได้มีมาตรการปิดตำบลเพื่อสแกนหาผู้ติดเชื้อและเพิ่มมาตรการการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดอย่างเข้มข้นที่ผ่านมา จนทำให้ปัจจุบันยังไม่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่ม และทำให้พื้นที่มีมาตรการที่ตระหนักต่อการป้องกันโรคเป็นอย่างดี


นายอาดือเร๊ะ ดาโอ๊ะ ผู้ใหญ่บ้านตะบิงรูโต๊ะ หมู่ที่ 8 ตำบลโคกสะตอ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เผยว่า การดำเนินงานของหมู่บ้านมีการตั้งจุดคัดกรองก่อนเข้าและออกจากหมู่บ้านอย่างเข้มงวด ซึ่งชาวบ้านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาล รพ.สต. อสม. และบัณฑิตอาสาฯ ในการร่วมด้วยช่วยกันคัดกรองผู้มีความเสี่ยง ทั้งผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศเพื่อนบ้านและผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อในตำบลยิ่งต้องเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังเพิ่มมากขึ้น และจากความร่วมมือของทุกฝ่าย ทั้งปกครองอำเภอ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ท้องถิ่น และท้องที่ ทำให้ขณะนี้พื้นที่หมู่บ้านยังคงเป็นพื้นที่ปลอดโรค และได้รับความร่วมมือที่ดีมากจากชาวบ้านที่ร่วมใจกันป้องกันโรคด้วย


นายอิสะมะแอ ฮูลูจืองา โต๊ะอีหม่าม ประจำมัสยิดดารุลอิห์ซาน บ้านตะบิงรูโต๊ะ ให้สัมภาษณ์ว่า การจัดการละหมาดตามมาตรการผ่อนปรนของสำนักจุฬาราชมนตรี ได้คำนึงถึงผลกระทบโดยรวมของพื้นที่ เพราะจะต้องมีการทำความเข้าใจกับคณะกรรมการมัสยิดถึงข้อกำหนดที่สำนักจุฬาราชมนตรีได้กำหนดไว้ ซึ่งถือว่าเป็นอามานะห์(ความไว้วางใจ)ที่ต้องรับผิดชอบร่วมกันเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพราะถึงแม้จะต้องปฏิบัติศาสนกิจ แต่ก็ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของพี่น้องในสังคมด้วย อีกทั้งการสร้างความเข้าใจแก่ชาวบ้านในพื้นที่ก็เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหากมีความหละหลวมก็อาจส่งผลกระทบต่อคนส่วนใหญ่ ดังนั้นการจัดการละหมาดของมัสยิด คณะกรรมการมัสยิดและผู้นำชุมชนจะให้ความสำคัญและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด ทั้งการตั้งจุดคัดกรอง การลงชื่อ ตรวจวัดไข้ การสวมใส่หน้ากากอนามัย อีกทั้งทุกจุดจะมีเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือ และทุกคนต้องอาบนำละหมาดจากที่บ้าน นำผ้าซะญาเดาะห์มาเอง และละหมาดตามจุดที่กำหนดให้เท่านั้น


ด้าน นายอัรซู ดาโอ๊ะ บัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิบ้านตะบิงรูโต๊ะ ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่เริ่มมีการระบาดของโรคโควิด 19 ก็ได้ลงพื้นที่ติดตามร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง โดยได้สนองนโยบายของ เลขาธิการ ศอ.บต. ที่มีความห่วงใยและกำชับให้บัณฑิตอาสาฯ ลงพื้นที่สำรวจความต้องการของชาวบ้านและนำส่งข้อมูลรายงานสรุปให้กับ ศอ.บต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ ทั้งนี้จากมาตรการต่างๆที่ออกมา ทั้งในส่วนของจังหวัดหรือสำนักจุฬาราชมนตรี ก็ได้นำข่าวสารความรู้ต่างๆมาประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้แก่ชาวบ้านอยู่เสมอด้วย

 797 total views,  2 views today

You may have missed