มีนาคม 19, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

บอลชาติไทย ชนะ ยูเออีในมุมมองอินโดนีเซีย

แชร์เลย
อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ) :รายงานจากอินโดนีเซีย
ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ ผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีแด่ผู้อ่านทุกคน
สะใจแฟนบอลไทย เมื่อทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี  2-1 ในเกมคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 รอบที่ 2 กลุ่ม จี นัดที่ 3  ทั้งที่ก่อนเกมส์มีสถิติเป็นรอง
     “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตกุนซือทีมชาติไทย ได้ให้ทัศนะเกี่ยวกับเกมส์สำคัญคู่นี้ก่อนเกมส์ไว้อย่างน่าสนใจว่า “เกมส์ที่ไทยจะเจอกับยูเออี แน่นอนครับว่าไม่ใช่งานง่าย แต่เราได้เล่นในบ้าน พูดกันตรงๆ ว่ามาตรฐานของเรากับ ยูเออี ไม่ได้หนีกันเท่าไร สิ่งสำคัญคือนักเตะทุกคนต้องเชื่อมั่นในเพื่อนร่วมทีม” “มองแล้วอย่างน้อยๆ เกมนี้เราต้องมีหนึ่งแต้มให้ได้ แต่หากเราคว้าสามแต้มได้ ผมเชื่อว่าเราจะมีโอกาสขับเคี่ยวกับ ยูเออี เพื่อคว้าแชมป์กลุ่มเลย เพราะหากเราชนะได้มันจะเป็นการสร้างขวัญกำลังใจที่ดีให้กับเรา”
         หากดูสถิติเจอกันทั้งหมด 13 ครั้ง ยูเออี ชนะ 7 เสมอ 4 ขณะที่ ทีมชาติไทย ชนะ 2 นัด ในศึกเอเชียนเกมส์ 2002 (3-1) และคัดบอลโลก 2006 (3-0) ซึ่งเป็นการเล่นในบ้านทั้ง 2 นัด แต่หลังจากเกมคัดบอลโลกครั้งนั้น เจอกันอีก 4 นัด ไทย ไม่ชนะอีกเลย เสมอ 3 แพ้ 1 อย่างไรก็ตาม 2 นัดหลังสุด เสมอรวด ด้วยสกอร์ 1-1 ทั้งเกมคัดบอลโลก 2018 และเอเชียนคัพล่าสุด
สำหรับในอดีตไทยเล่นในบ้านคงจำกันไดว่า “ทีมชาติไทย ทำไมไม่ชนะทีม ยูเออีแม้ความได้เปรียบของทีมชาติไทยเล่นในบ้าน   จะได้เปรียบในเรื่องเสียงเชียร์ ทั้งๆที่รู้ตอนนั้นทีมชาติยูเออี อยู่ในช่วงถือศีลอด การเข้าทำเกมบุกดูแล้วอ่อนแรง ซึ่งดูจากความได้เปรียบแล้ว ไทยน่าจะบุกได้ดีกว่านี้ และน่าจะยิงได้อย่างน้อยๆ 2 ลูกขึ้นไปและชนะในที่สุด แต่ดูจากรูปเกมที่เกิดขึ้น สิ่งที่หายไปจากทีมชาติไทย คือการต่อบอลเท้าสู่เท้าและการเจาะแผงหลัง ยูเออี แบบชิ่งบอล ทะลุทะลวงหายไป แต่บอลไทยกลับมาโยนยาว จากแดนหลังสู่แดนหน้า โอกาสเข้าทำแทบจะไม่มีส่วนมากเสียบอลแล้วโดนโต้กลับ โอกาสจบสกอร์ของไทยน้อยมาก
แต่ครั้งนี้ภายใต้โค้ชญี่ปุ่นไม่ใช่  จากการฟังการวิเคราะห์ วิจารณ์ชาวอินโดนีเซียหรือแฟนบอลชาวไทยที่อยู่อินโดนีเซียไม่ว่านักศึกษาไทยและคนไทยที่ไปทำงานที่โน้นพูดเป็นเสียงเดียวว่า ทีมชาติเปลียนไป หลังมีโค้ชใหม่   “อากิระ นิชิโนะ” เฮดโค้ชญี่ปุ่น
นายยะโก๊บ ละแม อาจารย์ชาวไทยที่มาดูงานที่อินโดนีเซีย(พร้อมผู้เขียน)ช่วงบอลไทยแข่งกับยูเออีพอดี กล่าวว่า “ผมได้ดูเกมส์นี้ทาง https://www.facebook.com/live แล้วทึ่งนึกไม่ถึงว่าทีมบอลไทยจะชนะและทรงบอลดีมากๆทั้งที่ขาดตัวหลักอย่างชนาธิปกับฐิติพันธ์ แต่เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่นสุดยอดฝีมือปรุงแต่งนักเตะผสมผสาน ธีรศิลป์ และทีมงานกับนักเตะวัยรุ่นอย่างอย่างเอกนิษฐ์ ปัญญา ศิริโชค สาระชาติ และนิติพงษ์ เสลานนท์ที่มาแทนทริสตอง โด”
 ในขณะที่แฟนบอลอินโดนีเซียแสดงความยินดีต่อประเทศไทย แม้บอลเขาจะแพ้ เวียดนามคาสนามในบ้านตัวเอง และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ชัยชนะครั้งนี้สอดคล้องกับทัศนะเซียนบอลทั้งชาวไทยและโลก ว่า เพราะฝีมือนิชิโนะล้วนๆ    “เขามองว่านิชิโนะมองเห็นศักยภาพของนักเตะไทย และใช้จิตวิทยากระตุ้นความฮึกเหิมในตัวนักเตะเพื่อรีดศักยภาพทุกคนออกมาได้เต็มที่ กอร์ปกับรีดความมั่นใจ ความสดของนักเตะวัยรุ่นที่โค้ชยูเออี ไม่ทราบ มาก่อน และรู้ว่า กองหลังฝั่งขวาที่ชนกับเอกนิษฐ์นั้นแก่กว่าเอกนิฐถึง10 ปี (เราเห็นเอนิษฐ์กระชากกองหลังคนนี้จนต้องดึงเสื้อเอกนิษฐ์ เกือบขาด)
แฟนบอลอินโดนีเซีย มองว่า “ศักยภาพนักเตะไทยตอนนี้ เล่นกับทีมระดับเกรดเอของเอเชียได้อย่างสนุกสูสีเลยทีเดียว เพียงแต่โค้ชที่ผ่านๆมา ดึงศักยภาพนักเตะออกมาได้ไม่เต็มที่ และสภาพจิตใจไม่ได้ถูกปลุกเร้าให้ลงมาเพื่อสู้ด้วยแผนการเล่นแบบตั้งรับเสียเป็นส่วนใหญ่ การชนะยูเออีได้ ถือเป็นการปลดล็อคความมั่นใจในตัวนักเตะได้พอสมควร”
         จากเหตุผลความสามารถของโค้ชญี่ปุ่นทำให้แฟนบอลออกมาเรียกร้องให้สมาคมฟุตบอลอินโดนีเซียหันมาใช้คนญี่ปุ่น หรือคนเกาหลีใต้เช่นทีมชาติเวียดนามด้วยเช่นกัน
        อย่างไรก็แล้วแต่การชนะของทีมชาติไทยและเป็นจ่าฝูงครั้งนี้มิได้หมายความว่า ไทยเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายอย่างแน่นอนและ 2 นัดที่พบกับมาเลเซียทีบูกิตญาลีล และเยือนเวียดนามจะเป็นคำตอบ โดยเฉพาะการพบกับมาเลเซียทีบูกิตญาลีลซึ่งทีมชาติไทยมีประวัติไม่ดีที่ไม่สามารถคว้าชัยมาได้เลย จากการเสมอ 1 และแพ้อีก 2 นัด เริ่มจาก ปี 2004 แพ้ไป 2-1 ในรอบแรก ครั้งที่สองปี 2012 เสมอ 1-1 ในรอบรองชนะเลิศ นัดแรก และล่าสุดในปี 2014 แพ้ 3-2 ในรอบชิงชนะเลิศ นัดที่สอง
ผู้เขียนได้มีโอกาสพบแฟนบอลมาเลเซียขณะนั่งเครื่องบิน กัวลาลัมเปอร์กลับหาดใหญ่ซึ่งคุณบะฮารุดดีน กล่าวว่า “มันไม่ใช่ง่ายที่ไทยจะเก็บสามแต้มในสนามแห่งนี้ได้ ต่อหน้าแฟนบอลนับแสนเต็มอัฒจันทร์ ของเราและนัดนี้ก็สำคัญสำหรับชี้ชะตามาเลเซียด้วยเช่นกัน”
ครับหวังว่า “อากิระ นิชิโนะ” เฮดโค้ชสมองเพชรชาวญี่ปุ่นจะสามารถเตรียมตัวทำการบ้านก่อนแข่งและรีดฟอร์มเก่งของนักเตะทุกคนไม่ว่าตัวจริงหรือสำรองจากทั้งสองนัดนอกบ้านอีกครั้ง

 884 total views,  2 views today