(19 ธันวาคม 2561) เวลา 10.00 น. ที่ ค่ายเสนาณรงค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 แถลงผลการปฏิบัติงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้ ภายหลังเปิดปฏิบัติการมา 1 เดือน 15 วัน โดยมี นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี, นายสุรพล ภัทรปกรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 9, นายพีระ กาญจนพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 8, พลตรี กฤษฎา พงษ์สามารถ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 และ พลตำรวจโท รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลง
พลโท พรศักดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวว่า ปัญหายาเสพติด มีความซับซ้อน และเกี่ยวพันเชื่อมโยงกับปัญหาความมั่นคง การแพร่ระบาดของยาเสพติด มีแนวโน้มที่มีความรุนแรง และเป็นปัญหาที่ประชาชนต้องการให้รัฐแก้ไขเป็นอันดับแรก เพราะเป็นทุกข์ของประชาชน ประกอบกับรัฐบาลได้กำหนดนโยบายในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด พ.ศ. 2558 – 2562 โดยกำหนดวิสัยทัศน์ว่า “สังคมไทย เข้มแข็ง และรอดพ้นจากยาเสพติดด้วยภูมิคุ้มกัน และมาตรการลดผู้ค้า ผู้เสพ และความร่วมมือระหว่างประเทศด้านยาเสพติดบรรลุตามพันธกรณี และวิสัยทัศน์อาเซียน ภายในปี 2562”
การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงเป็นภารกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดในชุมชน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จึงได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมอำเภอ เพื่อเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ทั้งการป้องกัน การสกัดกั้นการปราบปรามและการบำบัดรักษา ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพชีวิต เดินสายสร้างการรับรู้และสร้างความเข้าใจกับผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชน ให้รับทราบแนวทางในการแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อดับทุกข์ให้กับพี่น้องประชาชนให้หมดสิ้นไป โดยตั้งเป้าหมายปฏิบัติการไว้ 90 วัน ตั้งแต่ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 จนถึง 31 มกราคม 2562 ด้วยการดำเนินการให้ ครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ประกอบด้วย
- ด้านการป้องกัน มุ่งเน้นสร้างภูมิคุ้มกันและภูมิป้องกันยาเสพติดให้ครอบคลุม 5 กลุ่มเป้าหมาย คือ หมู่บ้าน/ชุมชน ในสถานศึกษา นอกสถานศึกษา โดยใช้แนวทางการสร้างชุมชนเข้มแข็ง และจิตอาสาญาลันนันบารูเข้าดำเนินการ ณ ขณะนี้ สามารถฝึกอบรมและจัดตั้งกลุ่มพลังจิตอาสาประชารัฐได้ แล้ว 9,818 คน นอกจากนี้ยังได้ขับเคลื่อนงานสร้างภูมิคุ้มกัน ผ่านมวลชนญาลันนันบารู และญาลันนันบารูจูเนียร์ที่ผ่านการ ฝึกอบรมและจัดตั้งแล้วกว่า 20,000 คน และยังมี โครงการ รด. จิตอาสาต้านภัยยาเสพติดทุกสถานศึกษา มียอดกว่า 30,000 คน
- ด้านการสกัดกั้นและปราบปราม ได้เน้นให้มีการตั้งด่านตรวจและจุดสกัดตามเส้นทางในพื้นที่ และบริเวณแนวชายแดน เพื่อป้องกันการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาแพร่กระจายในพื้นที่ พร้อมมุ่งเน้นทำลายโครงสร้างเครือข่าย ยาเสพติดในพื้นที่และใช้มาตรการทางกฎหมายต่อกลุ่มผู้ค้ายาในระดับต่างๆ ที่เป็นวงจรนำยาเสพติดเข้าสู่ชุมชนตามบัญชีเป้าหมาย โดยมอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดกำลังเข้าสกัดกั้นและปราบปรามร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 8 และภาค 9 และหน่วยที่เกี่ยวข้องโดยให้หน่วยประจำพื้นที่เป็นกำลังเสริมและสนับสนุนการปฏิบัติให้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยผลการปฏิบัติ ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2561 จนถึง 15 ธันวาคม 2561 สามารถตรวจยึดของกลางยาเสพติดและจับกุมผู้ต้องหาได้ ดังนี้
– ยาบ้า จำนวน 10,801,718 เม็ด
– ไอซ์ จำนวน 47 กิโลกรัม
– เฮโรอีน จำนวน 298 กิโลกรัม
– กัญชา จำนวน 30 กิโลกรัม
– พืชใบกระท่อม จำนวน 1,000 กิโลกรัม
– ผู้ต้องหา จำนวน 419 ราย
- ด้านการบำบัดรักษา จะดำเนินการคัดกรองผู้เสพเข้ากระบวนการคัดกรอง เพื่อแยกผู้เสพ และผู้ติดยา ซึ่งปัจจุบัน มีผู้เข้ากระบวนการคัดกรองแล้วกว่า 33,500 คน เข้าบำบัดแล้ว 4,349 คน และจะมุ่งเน้นใช้มาตรการทางสังคมภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา โดยปัจจุบันได้จัดเตรียมสถานที่รองรับ ผู้เข้ารับการบำบัด จำนวน 29 แห่ง สามารถรองรับได้กว่า 2,200 คน นอกจากนี้ยังมีสถานที่บำบัดฟื้นฟู ด้วยหลักศาสนาอิสลาม ที่ปอเนาะญาลันนันบารู บ้านเกาะแลหนัง ตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา เป็นสถานที่บำบัดด้วยความสมัครใจ และผ่านกระบวนการชุมชนโดยจิตอาสาญาลันนันบารู สามารถรองรับได้กว่า 1,000 คน โดยผู้ที่จะเข้าสู่กระบวนการบำบัดจะต้องผ่านการประเมินเบื้องต้นจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลก่อนเข้าสู่ ศูนย์คัดกรองระดับอำเภอ เพื่อคัดแยกและลงทะเบียนเข้าสู่กระบวนการบำบัดตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข โดยแบ่งตามระดับความรุนแรงของอาการ ได้ 4 กลุ่ม ดังนี้
– กลุ่มผู้ใช้จะบำบัดด้วยโปรแกรมบำบัดเบื้องต้นและส่งตัวเข้าฝึกอบรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม พัฒนาทักษะชีวิต ณ ศูนย์วิวัฒน์พลเมือง หรือค่ายฝึกอบรมตามที่กำหนด
– กลุ่มผู้เสพ ส่งเข้าบำบัดที่โรงพยาบาลชุมชน หรือสถานที่บำบัดที่กำหนดโดยใช้เวลา 12 วัน
– กลุ่มผู้ติด ส่งเข้าบำบัดที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ หรือโรงพยาบาลศูนย์ในพื้นที่
– กลุ่มผู้ป่วยซ้ำซ้อนส่งเข้าบำบัดที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี, โรงพยาบาลธัญญารักษ์สงขลา และโรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเครือข่ายต่อไป
/////////////////////////////////
ทีมข่าว ยะลา ปัตตานี รายงาน
781 total views, 2 views today
More Stories
เลขาฯ รมต.ยุติธรรม ชี้ มหกรรมแก้หนี้ ปลดหนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม แก้ปัญหาหนี้สิน 242 ล้าน
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเป็นประธานเปิดป้ายอาคารเรียนและอาคารปฏิบัติการ วิทยาลัยการอาชีพเบตง
เทศบาลเมืองปัตตานีจัดกิจกรรมสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่อยอดกิจกรรมการเรียนรู้ภายในศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของอุทยานการเรียนรู้ปัตตานี