ธันวาคม 4, 2024

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

นายกรัฐมนตรี และครม.ลงพื้นที่ ปัตตานี สร้างมั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน เพื่อพัฒนาพื้นที่ จ.ชายแดนภาคใต้ เน้นเป็นพื้นที่เศรษฐกิจกระตุ้นให้เกิดการลงทุน

แชร์เลย

นายกรัฐมนตรี และครม.ลงพื้นที่ ปัตตานี สร้างมั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน เพื่อพัฒนาพื้นที่ จ.ชายแดนภาคใต้ เน้นเป็นพื้นที่เศรษฐกิจกระตุ้นให้เกิดการลงทุน

วันที่ 27 พ.ย. 2560 เมื่อเวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง มหาดไทย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก  และคณะ เดินทางมาถึงตลาดกลางปศุสัตว์กลางจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.บ่อทอง ต.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งการเดินทางมาครั้งนี้เพื่อติดตามการขับเคลื่อนงานนโยบายของรัฐบาล ตามโครงการเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยมมั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน เพื่อพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจด้วยการกระตุ้นให้เกิดการลงทุน การสร้างงาน สร้างรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี และจังหวัดใกล้เคียง ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีนายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผวจ.ปัตตานี กล่าวรายงาน จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีเปิดป้ายตลาดกลาง     ปศุสัตว์กลางจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นพื้นที่ส่วนกลางในการค้าขายปศุสัตว์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้     โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา เกษตรกร และประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยบนเวทีในช่วงตอนหนึ่งว่า ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน โดยร่วมกันขจัดความขัดแย้งออกไป เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาซึ่งต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญเดียวกัน สำหรับพื้นที่ภาคใต้ ถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ ทั้งด้านการเกษตร ปศุสัตว์ ประมง และการท่องเที่ยว ซึ่งทุกคนต้องร่วมมือกัน โดยเฉพาะด้านวัฒนธรรมที่เป็นประวัติศาสตร์ของชาติ และเป็นสิ่งที่ชาวไทยภูมิใจ ซึ่งต้องไม่นำประวัติศาสตร์เป็นเครื่องมือสร้างความขัดแย้ง เพราะประเทศไทยมีหลายภาค หลายวัฒนธรรม และศาสนา จึงต้องปรองดองกันเพื่อนำพาประเทศไทยก้าวผ่านไปให้ได้

จากนั้น เวลา 13.30 น. นายกรัฐมนตรี  พร้อมคณะได้เดินทางไปยัง บริษัทปาล์มพัฒนาชายแดนภาคใต้ จำกัด     ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยมีนายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมต้อนรับ พร้อมรับฟังการบรรยายจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในการนี้ได้เยี่ยมชมพื้นที่เกษตรกรรมแปรรูปโรงงานน้ำมันปาล์มและ ติดตามการพัฒนาด้านเกษตรกรรม ส่งเสริมการดำเนินงานเกษตรแปลงใหญ่ พัฒนาศักยภาพแปรรูปสินค้าเกษตรอุตสาหกรรม  เพื่อเป็นการรองรับผลผลิตของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นโครงสร้างการเชื่อมโยงเครือข่ายการดำเนินโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ของจังหวัดปัตตานีอีกแห่งหนึ่ง

จากนั้นนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง และผู้นำท้องถิ่น เพื่อรับทราบผลการปฏิบัติ     และติดตามความคืบหน้าด้านคดีต่าง ๆ พร้อมมอบนโยบายการปฏิบัติงานให้กับกองกำลังในพื้นที่  เน้นย้ำให้ผู้บังคับบัญชา    และกองกำลังประจำถิ่น เน้นปฏิบัติงานด้านความมั่นคงอย่างจริงจัง ร่วมกันสนธิกำลัง และบูรณาการกับทุกภาคส่วนอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก  โดยนำศาสตร์พระราชทานมาปรับใช้ คือ         เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา สร้างความเข้าใจระหว่างภาครัฐและประชาชน ลดความหวาดระแวง เพื่อนำความสันติสุขกลับสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป

ภาพ/ข่าว.ศูนย์ข่าวประชาสัมพันธฺ ศอ.บต.และSPMCNEWS

 

 1,154 total views,  2 views today

You may have missed