รายงานโดย อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ) จากรัฐเปรัก ประเทศมาเลเซีย

เจอริก, เปรัก, มาเลเซีย – คณะผู้แทนจากประเทศไทยนำโดย นางสาวกนกรัตน์ พงษ์ธัญญะวิริยา ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ภาคเอกชน และสมาคมสื่อเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ (SPMC) ได้เดินทางไปศึกษาดูงานที่ Maahad Tahfiz Dan Kemukjizatan Al-Quran, Pondok Air Jernih ณ หมู่บ้านอูลู เกินเดอร็อง, เจอริก, รัฐเปรัก เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2025 โดยมีความตื่นตาตื่นใจกับรูปแบบการพึ่งพาตนเองที่ยั่งยืน ซึ่งเน้นการบูรณาการการศึกษาศาสนาเข้ากับการเป็นผู้ประกอบการด้านการเกษตร
สถาบันแห่งนี้ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเป็นศูนย์ ตาห์ฟิซ หรือท่องจำอัลกุรอาน (สำหรับเด็ก) และ ปอเนาะ (สำหรับผู้ใหญ่) เท่านั้น แต่ยังถูกยกระดับให้เป็น “ศูนย์การเรียนรู้ศาสนา และอาชีพเพื่อการพึ่งพาตนเอง” ที่เน้นการสร้าง “บัณฑิตที่มีความสมดุล” หรือ “อุลิลอัลบาบ” (ulul-albab)
พริกและสหกรณ์: หัวใจหลักของความยั่งยืนทางการเงิน
สิ่งที่คณะผู้แทนไทยให้ความสนใจมากที่สุดคือการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับสถาบัน
- โครงการหลัก: การปลูกพริก – นักเรียนตาห์ฟิซและนักศึกษาผู้ใหญ่ (ปอเนาะ) ได้เข้าร่วมในการปลูกพริกจำนวนมากเพื่อเป็นกิจกรรมด้านอาชีพ โครงการนี้มอบความรู้และทักษะการจัดการพืชผลภาคปฏิบัติ
- การแปรรูปและเพิ่มมูลค่า – ผลผลิตพริกถูกนำไปแปรรูปเป็นพริกแห้งและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าการขายสูงสุดและลดความเสี่ยงจากการสูญเสียผลผลิต ซึ่งยังช่วยสร้างอาชีพให้กับคนในท้องถิ่น (แต่พริกก็ยังไม่พอต่อความต้องการของตลาด)
- บทบาทของสหกรณ์ – รายได้ทั้งหมดจากการขายถูกนำเข้าสู่ Koperasi Maahad Tahfiz Pondok Air Jernih Gerik Berhad (สหกรณ์ของสถาบัน) สหกรณ์นี้ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานธุรกิจอย่างเป็นทางการในการบริหารจัดการกองทุน จัดสรรผลกำไรอย่างเป็นธรรม และให้ทุนสนับสนุนการดำเนินงานประจำวันของสถาบัน
คำกล่าวจากคณะผู้แทนไทย:
คณะผู้แทนชี้ว่ารูปแบบนี้เป็นแนวทางที่ สร้างสรรค์และควรนำไปเป็นแบบอย่าง ในการหลอมรวมการศึกษาศาสนาที่ลึกซึ้งเข้ากับทักษะชีวิตที่เป็นประโยชน์ ซึ่งจะสร้างบัณฑิตที่ไม่เพียงแต่เป็น ฮาฟิซ (ผู้ท่องจำอัลกุรอาน) เท่านั้น แต่ยังเป็น ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ และสามารถสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของตนเองได้
การบูรณาการหลักสูตร: สร้างบัณฑิตที่รอบด้าน

การบริหารจัดการของสถาบันนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความสมดุลระหว่าง
- แกนหลักทางศาสนา: เน้นการท่องจำอัลกุรอานครบ 30 ยุซ และการศึกษาหลัก ฟัรฎูอีน (ศาสนกิจที่ต้องปฏิบัติ)
- วิชาการ (ปอเนาะไอร์เญอร์นีห์): มีหลักสูตรที่ช่วยให้นักเรียนสามารถสอบวิชาการระดับชาติเพื่อให้ได้รับวุฒิการศึกษาที่ยอมรับ (หลักสูตรสามัญภายใต้การรับรองของกระทรวงศึกษาธิการ)
- อาชีพ/การพึ่งพาตนเอง: ทักษะต่าง ๆ เช่น การเกษตร (พริก), การแปรรูปอาหาร และการจัดการสหกรณ์ ถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาทักษะชีวิต
การเยี่ยมชมครั้งนี้คาดว่าจะนำไปสู่การเปิดโอกาสความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนรูปแบบการศึกษาระหว่างสถาบันในมาเลเซียและสถาบันการศึกษาอิสลามในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน การพัฒนาเศรษฐกิจและความยั่งยืนขององค์กรการศึกษาอิสลาม เพื่อเป็นบทเรียนนำไปปรับใช้ในพื้นที่ชายแดนใต้ต่อไป
9,361 total views, 2 views today

More Stories
จุฬาราชมนตรี: ผู้นำสองสถานะในวิกฤต “มหาอุทกภัยภาคใต้ 2568” ผู้ประสานงานและเยียวยาจิตใจ
จิตอาสาภาคประชาชน: เอกภาพบนหลักการ แตกต่างในรายละเอียด “เติมเต็มช่องว่างที่รัฐตกหล่น”
เจาะลึกคุตบะห์ญุมอะห์จะนะ: “ป่าคอนกรีต” สู่มัสยิดศูนย์บัญชาการภัยพิบัติ