โดย:นางโซรยา จามจุรี ผู้ประสานงานกลุ่ม Civic Woman ม.อ.ปัตตานี (มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี)
บาบอฮุสณี บินหะยีคอเนาะ ไม่เพียงแต่ตัดสินใจให้ใช้รร.เอกชนสอนศาสนาอิสลามของเขา รร.ศาสนบำรุง อ.จะนะ จ.สงขลา เป็นรพ.สนาม สำหรับผู้ป่วยโควิด ที่เป็นผู้หญิงและเด็ก ทุกศาสนา
แต่เขายังอาสารับหน้าที่เป็นพ่อบ้าน ดูแลผู้ป่วยประหนึ่งญาติ โดยมีหลักปฎิบัติที่เขายึดถือที่บอกกับเราว่า เขาจะไม่ดูหรือจดจำชื่อผู้ป่วย เพื่อเป็นการปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน และที่สำคัญไม่ให้ต้องรู้สึกถึงการเป็นหนี้บุญคุณระหว่างกัน
“ผมทิ้งไม่ได้ ให้สถานที่เป็นรพ.สนามแล้ว ผมก็ยังอาสามาช่วยดูแลอาหารการกินให้กับผู้ป่วย รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น และเป็นแกนกลางระดมความช่วยเหลือจากภาคส่วนต่างๆ ต้อนรับแขกที่นำข้าวของมาบริจาค นี่ก็เป็นหน้าที่ของผม ” บาบอฮุสณีบอกกับเรา ระหว่างนั้น ก็ขอปลีกตัวจากการคุยกับเราเป็นช่วงๆ เมื่อมีผู้มาส่งของบริจาค
” ผ้าอนามัยสำหรับผู้หญิง เมื่อก่อนนี่ ผมไม่เคยจับต้อง เป็นครั้งแรก ที่มาจับต้อง เพราะเป็นของใช้จำเป็นสำหรับสตรี เรานำงบที่ได้รับบริจาค มาซื้อของทำเป็นกิฟเซ็ท เอาของใช้ที่ผู้หญิงต้องการ เช่นแป้ง สบู่ หวี ยาสระผม แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ช้อน ผ้าอามัย จัดเป็นเซ็ท ใส่กล่องให้ผู้ป่วยแต่ละคน”
” รพ.ของรัฐล้น และเสี่ยงเกินไป ที่จะให้ผู้ป่วยกักตัวอยู่ที่บ้าน รพ.สนามของภาคเอกชน อย่างโรงเรียนผม จึงจำเป็นต้องสนับสนุน เราพยายามที่จะให้ชุมชนจัดการตนเอง และช่วยเหลือกันเอง ภาครัฐ สนับสนุนส่วนที่ขาด”
บาบอบอกว่า การทำงานครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากมามา (ภรรยาบาบอ) คนในครอบครัว และชุมชนทั้งพุทธและมุสลิม ตอนแรกๆ มีบ้าง ที่คนในชุมชนกลัวจะเป็นแหล่งแพร่เชื้อ แต่เมื่อได้รับคำอธิบายตามหลักการทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ รวมทั้งได้เห็นในเชิงประจักษ์ในระบบการบริหารจัดการที่ดีของรพ.สนาม ก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรอีก กลับสนับสนุนด้วยซ้ำไป
” แต่ผมก็ต้องตัดขาดจากครอบครัว มามา และลูกๆ 5 คน ของผม คนเล็กอายุ 5 ขวบ เคยกอดกันเป็นประจำ ตอนนี้ผมกอดเขาไม่ได้ เพราะผมคิดเสมอ ว่าตัวผมมีความเสี่ยง เลยจะไม่สัมผัสคนในครอบครัว แม้ผมจะกลับไปนอนที่บ้าน แต่เป็นห้องแยกออกมา เราจะไม่สัมผัสกัน เห็นกันทางกระจก”
” มีวันหนึ่งผมนำละหมาด ละหมาดเสร็จ ลูกผมร้องไห้ ภรรยาผมก็ร้องไห้ ผมเองก็น้ำตาไหล”
“ผมไม่ชวนคนในครอบครัว หรือครูในรร.มาอยู่ในรพ.สนาม เพราะมีความเสี่ยง มีตัวผมคนเดียว และทีมบุคลากรทางการแพทย์ อสม. และบางวันก็มีเยาวชนอาสาสมัครมาร่วมด้วย”
“ถามว่ากลัวไหม กลัว แต่ต้องกลัวอย่างมีสติ เพราะความกลัวว่าโรคระบาดจะรุนแรง และแพร่ไปทั่ว ผมจึงต้องช่วยเรื่องรพ.สนาม การมีผู้ป่วยอยู่ในที่กัก เขาทำให้เรารู้ว่า เชื้อโรคอยู่ที่ไหน เราจึงควบคุมได้ ต้องขอบคุณคนที่มากักตัว”
” รพ.สนามที่นี่ สำหรับทุกคนที่เป็นผู้หญิง เด็ก ไม่ว่าจะมุสลิม พุทธ หรือไม่มีศาสนา เราถือว่าทุกคนเป็นเพื่อนมนุษย์ และกำลังทุกข์ยากลำบาก ศาสนาอิสลามเอง ก็เป็นศาสนาแห่งความเมตตาปราณีสำหรับมนุษยชาติ” บาบอกล่าวปิดท้าย
หมายเหตุ
คลิปเปิดใจทำไมบาบอฮุสณีต้องเปิดโรงพยาบาลสนาม
(https://youtu.be/rcRB9EYRDuA)
14,602 total views, 4 views today
More Stories
SEC ภาคใต้กับSEA สงขลา-ปัตตานี
สู่พรบ.สันติภาพ เพื่อประกันกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้
ฮัจญ์ไทยในภารกิจทูตสันติภาพใน 3 ภารกิจ จชต.