บทบาท ผู้รู้และโรงเรียนสอนศาสนาในการลุกขึ้นแก้วิกฤตโควิดจะนะสานต่อภารกิจอุลามาอ์จะนะในอดีต

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)

Shukur2003@yahoo.co.uk
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน
อำเภอ จะนะ จังหวัดสงขลา เป็นที่รู้จักกันในพี่น้องมุสลิมว่า เป็นเมืองอุลามาอ์(ผู้รู้ศาสนา) ไม่แพ้ปัตตานีอันเป็นระเบียงมักกะห์ (ศาสตร์อิสลามศึกษา) ปัจจุบันมีโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ที่จดทะเบียน 25 โรงเรียน สถาบันปอเนาะอีก10 แห่งสถาบันท่องจำอัลกุรอานหรือฮาฟิซอีกประมาณ 5 แห่ง สานต่อภารกิจโต๊ะครูหรือผู้รู้ศาสนาในอดีต โรงเรียนฟัรดูอีน หรือโรงเรียนชายคามัสยิด ที่สอนศาสนา เด็กเล็กทุกมัสยิดไม่ต่ำกว่า 60 แห่ง

ในช่วงวิกฤตโควิด อำเภอจะนะ ผู้รู้ศาสนาและโรงเรียนศาสนา ได้เป็นแบบอย่างลุกขึ้นมาหาทางออกในการป้องกันและแก้ปัญหาโควิดก่อนที่รัฐจะเข้ามาดูแล ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและกล้าตัดสินใจเพื่อที่พึ่งต่อสังคมในยามวิกฤติซึ่งผู้เขียนขอลำดับความดังนี้

1.หยุดหยั่งโรงเรียนก่อนจะเกิดคลัสเตอร์ใหญ่
บาบอนัสรูดีน กะจิ ในนามนายกสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ได้เรียกประชุมบรรดาโต๊ะครู ผู้บริหารโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจนมีมติไม่เปิดโรงเรียนก่อนในวันที่ 14 มิถุนายน 2564 ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการเพราะมิฉะนั้นโรงเรียนจะเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ของโควิดสู่ชุมชน (อ่านเพิ่มเติมใน #ผลสะเทือนจากการประชุมPISA “สงขลาเลื่อนเปิดเรียน ไป 28 มิถุนายน” อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ http://spmcnews.com/?p=40989)
2.โรงเรียนรุ่งโรจน์วิทยา เสียสละเปิดศูนย์กักชุมชน
โรงเรียนรุ่งโรจน์วิทยา หรือปอเนาะปาดังลางา อันเป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามภายใต้การนำของบาบอนัสรูดีน กะจิ เปิดให้โรงเรียนของท่าน”เป็นศูนย์กักตัว (CIC Community isolated center)
โดยท่าน ถือว่าเป็นผู้รู้ศาสนาหรือโต๊ะครูที่รับผิดชอบต่อสังคมมากๆยอมให้ให้สถาบันสอนศาสนา ของท่าน โดยท่านกล้า “โรงเรียนรุ่งโรจน์วิทยาได้เปิดเป็นศูนย์กักตัว (CIC หรือ Community isolated center) ครู และบุคลากรทางการศึกษากว่า 100 ชีวิตที่ต้องดูแลกว่า 2 อาทิตย์ อันเป็นจิตวิญญาณด้านศาสนาที่อิสลามสอนไว้แม้จะต้องลงทุนงบประมาณไม่รู้เท่าไรที่ต้องดูแลบุคลากรพร้อมครอบครัวเขาเพียงเพื่อไม่ให้เชื้อแพร่สู่ชุมชน”
คุณ ศุภวรรณ ชนะสงคราม ผู้จัดการ อาหารปันรัก จะนะ สงขลา ให้ทัศนะ ว่า “ที่นี่เป็นโมเดลหนึ่งที่สามารถที่อื่นๆเอาเป็นแบบอย่างโดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่(ฟังเนื้อหาเต็ม
ใน https://www.facebook.com/105smilethailand/videos/3940191512696257/)
3. ดร.มังโสดนำชาวบ้านเปิดศูนย์กักตัวชุมชนที่โรงเรียนตาดีกามัสยิด
อันเนื่องมาจาก ประชาชน ม.4 และม.6 มีประชาชนติดโควิด นับร้อยชีวิต โดยดร.มังโสด หมะเต๊ะ ในฐานะผู้บริหารโรงเรียนสันติวิทย์ ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนศาสนา สามัญและอาชีพในพื้นที่เห็นความเดือดร้อนชาวบ้านไม่ไหว ประชุมทุกภาคส่วน ในชุมชนขอเปิดศูนย์กักตัว (CIC หรือ Community isolated center)เช่นกันโดยท่านจะดมทุกอย่างบริการในศูนย์นี้เพียงไม่ถึง 1 วัน สามารถระดมทุนเป็นเงินกว่า 7 หมื่นบาทตอนนี้ความช่วยเหลือก็ยังหลั่งไหลไม่หยุดเพราะความเชื่อมั่นในภาวะผู้นำของท่าน

ท่าน ได้ขอบคุณพี่น้องโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามและทุกภาคส่วน ที่สามารถระดมทุน ซื้อเตียง กว่า100 ชุดให้ชาวบ้านโคกเค็ต จะนะ เพียงไม่ถึง 1 วัน เป็นเงินกว่า 7 หมื่นบาทและกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ผมไม่คิดว่าความร่วมมือของพี่น้องจะมากมายและรวดเร็วขนาดนี้ ชีวิตคนต้องมีความสำคัญเสมอ ผมเองไม่ได้มีหน้าที่อะไร แต่เห็นความติดขัดในการช่วยเหลือชีวิตมนุษยแล้วมันคือหน้าที่ ที่ต้องช่วยกัรทำ ผมรู้สึกดีใจที่เห็นความร่วมมือของทุกท่าน ขอขอบคุณทุกท่านด้วยใจจริง ขอบคุณมากครับ”
นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ “ชื่นชมและขอบคุณกับท่านและทุกคนในทุกความร่วมมือ ที่ร่วมกันผ่าฟันอุปสรรค จนศูนย์กักชุมชน หรือ CIC ตาดีกาประจำมัสยิดบ้านโคกเค็ตว่า
“ความร่วมมือร่วมใจของชุมชนคือหัวใจในการสู้ภัยโควิด CICที่นี คือต้นแบบที่น่าสนใจยิ่ง หากไม่มี CIC ไม่มีความร่วมมือจากชุมชนท้องถิ่นท้องที่แล้ว โรงพยาบาลจะนะคงจะแย่ ผู้ป่วยย่อมตกค้างรอเตียงที่บ้าน รอหลายวันเข้าก็จำต้องรับตัวมานอนโรงพยาบาล ทำให้เตียงโรงพยาบาลที่ควรสงวนไว้สำหรับผู้ป่วยสีเหลืองที่มีอาการต้องการการดูแลทางการแพทย์ก็จะยิ่งมีไม่พอ พอมีผู้ป่วยที่อาการหนัก แต่เตียงไม่มีแล้ว วิกฤตจะยิ่งทวีคูณ

โรงพยาบาลจะนะต้องขอชื่นชมและขอบคุณกับทุกความร่วมมือ ที่ร่วมกันผ่าฟันอุปสรรค จนศูนย์กักชุมชน หรือ CIC ตาดีกาประจำมัสยิดแห่งนี้ เป็นรูปเป็นร่าง และเป็นส่วนสำคัญในการกอบกู้สู้ภัยโควิดของอำเภอจะนะในวันนี้”

(อ่านเพิ่มใน)
http://spmcnews.com/?p=41544)
จากบทบาทดร.มังโสด หมะเต๊ะ ข้างต้นจึงถามออกมาว่าแล้วนายอำเภอจะนะของเราไปไหน?
4.บาบอฮุสนีกล้าตัดสินใจใช้โรงเรียนสอนศาสนาท่านเป็นโรงพยาบาลสนาม
บาบาฮุสนี บินหะยีคอเนาะเเละภรรวยาเสียสละให้ปอเนาะท่านเป็นโรงพยาบาลสนามจะนะ
บาบอฮุสนี เปิดเผยว่า “วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน 2564 เวลา 14.00 น. หมอสุภัทร และทีมงาน
มาดูที่ศาสนบำรุง(ปอเนาะบาบอยีและห์ จะนะ)
เพื่อทำเป็นโรงพยาบาลสนาม”
การตัดสินใจของท่านโลกโซเชี่ยลชื่นชมท่านซึ่งถือเป็นอีกภารกิจหนึ่งของผู้รู้และสถาบันสอนศาสนาในการสานต่อ ภารกิจจะนะเมืองอุลาอ์ในอดีต (ดูเรื่องและภาพประกอบใน
https://www.facebook.com/1245604111/posts/10226233916814771/?d=nและ https://www.facebook.com/1245604111/posts/10226234892079152/?d=n)
ครับนี่คือ เรื่องราวดีๆในบทบาท ผู้รู้และโรงเรียนสอนศาสนาในการลุกขึ้นแก้วิกฤตโควิดจะนะ:สานต่อภารกิจอุลามาอ์จะนะในอดีตแม้โลกสื่อโซเชี่ยลจะมีเรื่องดราม่าโจมตี โรงเรียนสอนศาสนาอย่างมัรกัซยะลาในประเด็นแพร่โควิดสู่ชมชนต่างๆทั่วภาคใต้แม้คลัสเตอร์โควิดจากแหล่งอบายมุขและโรงงานจะมากกว่า