เมษายน 26, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

ศอ.บต. หนุนยกระดับการศึกษาด้านภาษาไทยใน จชต.จัดอบรมทักษะการสอน แก่บุคลากรในโรงเรียน ตชด. สังกัดกองกำกับการ ตชด.ที่ 43 และ 44

แชร์เลย

ทีมข่าวเฉพาะกิจ รายงาน..

(27 มิถุนายน 2563) ที่ห้องประชุมพนมไพร กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 ค่ายรามคำแหง     ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานในพิธีมอบวุฒิบัตรแก่ผู้ที่ผ่านการอบรมกิจกรรมเพิ่มศักยภาพวิทยากรผู้สอนภาษาไทย   การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “การพัฒนาผู้สอนภาษาไทยแบบครบวงจร” โดยมี นายประเวศ หมีดเส็น ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการกองประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และกิจการพิเศษ ศอ.บต. พลตำรวจตรี นิตินัย หลังยาหน่าย ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 พ.ต.อ.สถาพร แก้วสนิท ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 ผู้แทนจากกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 และ 44 ครูใหญ่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 และ 44 ทั้ง 18 แห่ง ผศ. ยุพดี ยศวริศสกุล อาจารย์คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและผู้เข้ารับการอบรม จำนวน 36 คนเข้าร่วม

ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อเพิ่มศักยภาพวิทยากรผู้สอนภาษาไทยระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ 2 ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 และ 44 ให้มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถนำความรู้ ที่ได้จากการฝึกอบรมไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนภาษาไทยในชั้นเรียน

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ปัญหาการเรียนภาษาไทยอาจมีด้วยกันในสองส่วน  ทั้งในส่วนของความคุ้นชินกับภาษาถิ่นหรือการเรียนภาษาที่อาจมีความยาก และอีกส่วนคือการไม่มีโอกาสเข้าถึงระบบการศึกษาเพราะอาจอยู่ในพื้นที่ห่างไกลหรือมีฐานะยากจน ดังนั้นการทำหน้าที่ครูภาษาไทยจึงมีความสำคัญกับจังหวัดชายแดนภาคใต้มาก เพราะถือว่าเป็นแม่พิมพ์ในการหล่อหลอมให้เยาวชนไทยสามารถเดินไปข้างหน้า และภาษาไทยยังเป็นสิ่งสำคัญที่เป็นตัวกลางเชื่อมประเทศไทยให้เป็นหนึ่งเดียวกันด้วย โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับสั่งให้ ศอ.บต. เป็นแกนกลางในการขับเคลื่อนโครงการมาอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับหลายภาคส่วนในการคัดสรรและเตรียมความพร้อมบุคลากร เพื่อทำให้เยาวชนในพื้นที่ห่างไกล รู้จักและรักภาษาไทยมากขึ้น ซึ่งจะไม่ไปเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์หรือวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ แต่จะทำให้รู้ว่าภาษาไทย คือ กุญแจที่จะไขไปสู่โอกาสในภายภาคหน้า และสามารถยกระดับการศึกษาในพื้นที่ให้เท่าเทียมกับเด็กในภูมิภาคอื่น ๆ ของประเทศไทย นอกจากนี้ขอให้ทุกคนใช้ศักยภาพที่มีอยู่ทำให้เด็กเยาวชนเติบโตเป็นอนาคตที่ดีของแผ่นดินใต้ต่อไป

ด้านตัวแทนผู้เข้ารับการอบรมครั้งนี้ เผยว่า ตนพร้อมที่จะนำความรู้ที่ได้รับจากการอบรมไปปรับใช้กับการสอนในพื้นที่ จากเดิมอาจพบปัญหาการเรียนการสอนอยู่บ้าง แต่มาครั้งนี้ได้รับความรู้และเทคนิควิธีการต่างๆมากมาย อีกทั้งต้องปรับการสอนให้เข้ากับ New Normal วิถีชีวิตแบบใหม่ จึงเชื่อว่าการเตรียมความพร้อมที่ดีจะสามารถสร้างการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ และยกระดับศักยภาพด้านการศึกษาของเยาวชนในพื้นห่างไกลให้สามารถอ่านออก เขียนได้ แข่งขันกับเยาวชนในภูมิภาคอื่นๆได้ดียิ่งขึ้น

 584 total views,  2 views today

You may have missed