ผู้ว่าฯปัตตานี ประกาศชัด จัดการเด็ดขาด หากพบไม่ให้ความร่วมมือแก้โควิด 19

มะอายือมิง สาและ รายงานจากปัตตานี…

สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ล่าสุดพบผู้ป่วยเพิ่มอีก 1 ราย ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของ อ.ทุ่งยางแดง โดยในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้กักตัวไว้แล้ว และยังได้กักตัวคนในครอบครัวอีก 5 ราย โดยมีแพทย์และพยาบาลคอยติดตามดูอาการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้มีการปิดหมู่บ้านนั้นทันที เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อออกไปสู่ภายนอกได้ โดยยอดผู้ป่วยสะสมล่าสุดในพื้นที่จังหวัดปัตตานีในขณะนี้ อยู่ที่ 48 ราย โดยทางจังหวัดปัตตานีได้อนุมัติเงิน 4,500,000 บาท เพื่อใช้ในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 และใช้ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึงถือเป็นเรื่องสำคัญในการที่ทางภาครัฐจะเข้าไปช่วยเหลือดูแลในขณะนี้
ในขณะที่ทางด้านนายไกรศร วิศิษฏ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีเปิดเผยว่า หลังจากที่ได้มีการแจ้งเตือนไปยังผู้นำท้องที่ และผู้นำท้องถิ่น ให้ปฏิบัติตามมาตรการคณะกรรมการการป้องกันและยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจังหวัดปัตตานี อย่างเคร่งครัด ซึ่งหากพบว่า พื้นที่ใดยังมีการฝ่าฝืน อาจจะมีบทลงโทษกับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านอย่างเด็ดขาดอาจจะถึงขั้นปลดออก หลังจากที่ผ่านมายังมีการทำผิดอยู่โดยเฉพาะบางพื้นที่ที่ยังคงมีการให้มีการละหมาดวันศุกร์ ซึ่งหลังจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าในขณะนี้ผู้ใหญ่บ้านยังคงทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ยังไม่พบว่าผู้ใหญ่บ้านหมู่ไหนใส่เกียร์ว่างในการทำงาน แต่ที่ผู้ใหญ่บ้านหนักใจในตอนนี้ก็คือ จะไปห้ามปรามผู้นำศาสนาค่อนข้างลำบาก ทำให้ยากต่อการทำงานของผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งที่ผ่านมา ทางผู้ใหญ่บ้านได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาตลอด ซึ่งทางจังหวัดรู้ดีในเรื่องที่ผู้ใหญ่บ้านต้องเผชิญ หรือเป็นเรื่องที่หนักเกินกำลัง ก็ขอให้รายงานขึ้นตรงที่ทางจังหวัดทันที จะได้ช่วยกันแก้ไข นอกจากนี้ ยังพบว่าในหลายพื้นที่ที่ยังคงกระทำผิดในเรื่องของกฎเคอร์ฟิว ในบางหมู่บ้านและบางอำเภอ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีการจับกุมไปแล้ว 17 ราย ทางจังหวัดก็ได้แจ้งเตือนไปยังนายอำเภอ ให้ลงพื้นที่ไปดูว่าทำไมยังมีการฝ่าฝืนกันอยู่ ซึ่งถ้ามีการจับกุมผู้ฝ่าฝืน ทางจังหวัดไม่ได้จบเพียงแค่นั้น แต่จะต้องให้ย้ายอำเภอลงไปดูด้วยว่า มันมีอะไรที่หย่อนยานบ้าง การสร้างความรับรู้ดีพอหรือยัง ซึ่งก็เพื่อให้นายอำเภอทบทวนและได้ประสานงานในพื้นที่ ซึ่งก็ขอเป็นกำลังใจในการทำงานของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่ทำดีอยู่แล้ว ในวันนี้ ขอบอกตามตรงว่า ที่ต้องใช้มาตรการเข้ม เพื่อสร้างความรับรู้กับส่วนราชการต่าง ๆ ว่า ฝ่ายปกครองเต็มที่ และเอาจริง ไม่ได้หย่อนยานแต่อย่างใด ดังนั้นการทำงานกับทุกส่วนราชการก็ต้องเอาจริงเอาจังด้วย และอีกอย่างก็เพื่อให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้เป็นข้ออ้างในการตักเตือนและใช้อำนาจที่มีอยู่ในการใช้มาตรการการควบคุมการแพร่ระบาด โดยอ้างถึงคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อชี้แจงต่อผู้นำศาสนา และร้านค้าในหมู่บ้าน ว่านี้คือคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัด และตนยืนยันว่าจะเอาจริงกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบต่าง ๆ ตนไม่ได้เขียนเสือให้วัวกลัว เพื่อต้องการให้ผู้ใหญ่บ้านตื่นตระหนก แต่ให้เห็นว่าฝ่ายปกครองจริงจังมาตลอดในการแก้ไขปัญหา อยากให้ทุกส่วนราชการเอาจริงเอาจังด้วยเช่นกัน

 628 total views,  17 views today