“อิจติมะฮ์โลก” ดะวะห์ตับลีฆยกไทย เบอร์ 1 หนุนเสรีภาพศาสนา ขอบคุณทัพภาค 4 ส่ง FTS ลุยน้ำท่วมส่งผู้นำต่างชาติถึงสนามบิน

     ผู้แทนกลุ่มดะวะห์ตับลีฆ แห่งประเทศไทย เข้าพบ ผอ.รร.การเมือง ศสว. ณ ค่ายอิงคยุทธบริหาร แสดงความขอบคุณกองทัพ-กลาโหม หนุนงานใหญ่ “อิจติมะฮ์โลก” เผยนาทีประทับใจทหารส่งรถสมรรถนะสูงฝ่าวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ภาคใต้ ส่งผู้นำศาสนาต่างประเทศขึ้นเครื่องกลับอย่างปลอดภัย ย้ำภาพลักษณ์ไทยดินแดนพหุวัฒนธรรมที่รัฐหนุนกิจการศาสนาดีที่สุดในโลก

      ที่เรือนรับรอง มณฑลทหารบกที่ 46 (มทบ.46) ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พ.อ.เอกธวุฒิ คงคาเขตร ผู้อำนวยการโรงเรียนการเมือง ศูนย์สันติวิธี (ผอ.รร.การเมือง ศสว.) ให้การต้อนรับ นายนราธร เหมันต์ เลขาธิการจัดงานอิจติมะฮ์โลกประจำประเทศไทย และผู้ช่วยผู้นำกลุ่มดะอ์วะฮ์ตับลีฆประเทศไทย สาขาหาดใหญ่ พร้อมด้วย นายยะมีน แหละตี ที่ปรึกษาการจัดงานฯ ในโอกาสเข้าพบเพื่อขอบคุณหน่วยงานความมั่นคง กองทัพภาคที่ 4 และกระทรวงกลาโหม ที่สนับสนุนการจัดงาน “อิจติมะฮ์โลก” ณ มัรกัสตาเซะ จ.ยะลา เมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

      ประเด็นสำคัญที่กลุ่มผู้แทนดะวะห์ตับลีฆเน้นย้ำด้วยความซาบซึ้ง คือการช่วยเหลือในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากห้วงการจัดงาน 20-23 พฤศจิกายน 2568 ประสบกับอุทกภัยครั้งใหญ่ในพื้นที่ จ.ยะลา ทำให้เส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด ผู้นำศาสนาจากต่างประเทศจำนวนมากติดค้างอยู่ในพื้นที่และเสี่ยงต่อการตกเครื่องบิน

      นายนราธร เปิดเผยว่า ในช่วงเวลาวิกฤต กองทัพ ได้สนับสนุนรถยนต์บรรทุกประเภท FTS (Full Time 4×4) ซึ่งเป็นรถบรรทุกสมรรถนะสูงพร้อมกำลังพล เข้าดำเนินการรับ-ส่งผู้นำศาสนาจากต่างประเทศที่ติดค้าง ณ มัรกัสตาเซะ เพื่อเดินทางไปส่งยังสนามบินนานาชาติหาดใหญ่จนปลอดภัยและทันกำหนดการเดินทางกลับประเทศ

“ความช่วยเหลือในยามวิกฤตครั้งนี้ สร้างความประทับใจอย่างมากแก่ผู้นำศาสนาจากหลายประเทศ ทุกท่านได้เห็นถึงความเอาใจใส่ของเจ้าหน้าที่รัฐไทยที่ไม่ทอดทิ้งประชาชนและผู้มาเยือน” ผู้แทนกลุ่มดะวะห์ฯ ระบุ

      นายนราธร ยังกล่าวอีกว่า จากประสบการณ์การเดินทางไปทั่วโลก ยังไม่เคยเห็นรัฐบาลประเทศใดที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมของกลุ่มดะวะห์ตับลีฆได้มากเท่ากับประเทศไทย ที่หน่วยงานภาครัฐ อาทิ กองทัพ, การบินไทย และท่าอากาศยานหาดใหญ่ เข้ามาอำนวยความสะดวกทั้งเรื่องการเดินทาง อาหาร และการปรับเปลี่ยนเที่ยวบินและขยายวิซ่าในช่วงน้ำท่วม

“ยังไม่มีที่ไหนในโลกที่ทางราชการจะสนับสนุนกลุ่มดาวะห์ขนาดนี้” นายนราธรกล่าวด้วยความตื้นตัน พร้อมระบุว่าสิ่งนี้สะท้อนถึงการฟื้นฟูจริยธรรมตามแบบอย่างท่านนบี และส่งเสริมความสัมพันธ์ในสังคมพหุวัฒนธรรม เนื่องจากหลักการของกลุ่มคือการยึดมั่นในกฎหมายบ้านเมืองและมุ่งสร้าง “ต้นแบบมุสลิมที่ดี” ที่อยู่ร่วมกับคนทุกศาสนาได้อย่างสันติ

      ด้าน รร.การเมือง ศสว. ระบุว่า การสนับสนุนดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของกองทัพและรัฐบาล ที่มองว่าการรวมตัวทางศาสนาเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความรักและความเข้าใจในพื้นที่

“การที่ประเทศไทยสนับสนุนกิจกรรมของทุกศาสนาอย่างเท่าเทียม เป็นเครื่องยืนยันถึงความใจกว้างและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความสุขและความสันติสุขอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดไป” รร.การเมือง ศสว. กล่าวทิ้งท้าย

     การเข้าพบครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการขอบคุณในเชิงพิธีการ แต่ยังเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาชาวมุสลิมโลก ถึงเสรีภาพในการประกอบศาสนกิจและการได้รับความคุ้มครองดูแลจากรัฐอย่างเสมอภาค แม้ในยามเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ