เมษายน 19, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

“ปาตีเมาะ” อาสาเป็นปากเสียงเพื่อผู้หญิงและเด็ก ชอบภูมิใจไทยเพราะ “พูดแล้วทำ”

แชร์เลย

“ปาตีเมาะ”  ชอบภูมิใจไทยเพราะ “พูดแล้วทำ”

ด้วยความเป็นคนยะลาทำงานกับผู้หญิงและเด็กมาตั้งแต่เกิดสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนใต้ทำให้ “ปาตีเมาะ เปาะอิแตดาโอะ” รับรู้และต่อสู้ในแนวทางที่ผู้หญิงคนหนึ่งสามารถทำได้ จนวันนี้เธอตัดสินใจลงทำงานการเมืองในนามว่าที่ผู้สมัครสส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เพื่อเป็นปากเสียงให้กับผู้หญิงและเด็กทั้งในระดับนโยบายและปฏิบัติ

การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้คณะประสานงานระดับพื้นที่-สล.3 เป็นต้น

จากเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ปี 47 ปาตีเมาะได้สูญเสียสมาชิกในครอบครัวจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ถึง 4 คน ทำให้เธอได้เข้าใจถึงความรู้สึกของผู้ที่สูญเสียและผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ เป็นเวลากว่า 14 ปี ที่เธอได้เข้ามาทำงานภาคประชาสังคมในการช่วยเหลือเด็กและสตรี ตลอดจนผู้ที่ได้รับผลจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ในเรื่องการเยียวยา การให้คำปรึกษากับผู้ได้รับผลกระทบ ประสานกับฝ่ายรัฐในการเข้าถึงสวัสดิการของรัฐ และสิทธิต่างๆ รวมทั้งการสร้างเครือข่ายอาสาสมัครเพื่อเยียวยาผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบโดยตรงทั่วพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

@ ประสบการณ์และการทำงานกับผู้หญิงและเด็กในพื้นที่กว่า 10 ปี ต้องมีพื้นที่ให้ผู้หญิง

“เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นได้จริง สิ่งเหล่านี้ได้สะท้อนเป็นภาพความรู้สึก และพบเจอจากผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งแค่ดิฉันคนเดียวคงไม่สามารถทำให้เหตุการณ์ความรุนแรงลดลงได้ หรือตะโกนดังพอ ให้กลุ่มผู้ก่อเหตุความรุนแรงหยุดกระทำต่อเด็กและสตรี หรือแม้กระทั่งผู้มีอำนาจที่ลงมาแก้ไขปัญหาหรือเข้ามามีบทบาท
อยู่ในพื้นที่ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปี ว่าสิ่งที่ดิฉันไปพบเจอมาเป็นอย่างไร เราควรจะแก้ไขไปในทิศทางไหนให้ถูกต้องให้ถูกวิธี แต่เสียงดิฉันมันก็ยังดังไม่พอ

ในฐานะที่ทำงานกับผู้หญิงพยายามเรียกร้องพื้นที่การตัดสินใจของผู้หญิงทุกระดับ จนวันนี้คิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องร่วมกัน กำหนดอนาคตตนเอง กำหนดอนาคตบ้านของเราเอง เพราะดิฉันเกิดและเติบโตมาในพื้นที่ย่อมรู้ปัญหาจะนำประสบการณ์การทำงานในพื้นที่ ตลอดจนรับฟังปัญหา จากผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงไปกำหนดเป็นนโยบายและวาระแห่งชาติ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปในทางที่ดีขึ้น”

“ทางเดียวที่จะสามารถทำได้คือ การเข้าสู่เส้นทางของนักการเมือง หลายคนคิดว่าผู้หญิงกับการเมืองจะไปได้อย่างไร อยากให้ประชาชนมองว่าการเมืองทุกวันนี้เต็มไปด้วยผู้ชาย หากอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง เราต้องให้โอกาสผู้หญิงเข้าไปมีบทบาทในสภาเพิ่มขึ้น มันคงเป็นเรื่องที่ไม่ผิด แต่ตรงกันข้ามหากมีผู้หญิงในสภาสัดส่วนใกล้เคียงกับผู้ชาย คงเป็นเรื่องที่ดีมากกว่า”

@ เพิ่มสิทธิและบทบาทของผู้หญิง พร้อมมีส่วนร่วมบนโต๊ะเจรจา

“หากมีโอกาสได้เข้าสู่เส้นทางนักการเมือง สิ่งที่จะทำคือ เรื่องของสิทธิและบทบาทของผู้หญิง รวมทั้งการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงโดยตรง การมีพื้นที่ตัดสินใจของผู้หญิงในทุกระดับ โดยเฉพาะการเข้าไปมีบทบาทเป็นคณะกรรมการต่างๆ ในทุกระดับตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ถึงระดับนโยบายของประเทศ ต้องมีสัดส่วนของผู้หญิงไม่ต่ำกว่า 30 ต่อ 70% รวมทั้งในการออกกฎหมาย ออกระเบียบ ต่างๆ ที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ก็ต้องมีตัวแทนผู้หญิงเข้าไปนั่งด้วย ”

“สันติภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีถือเป็นเรื่องสำคัญมากที่สุดในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และต้องการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม สนับสนุนให้ผู้หญิงเข้าร่วมบนโต๊ะเจรจาสันติภาพ ในฐานะปาร์ตี้ C ต้องรู้ว่าเขาคุยหรือตกลงอะไรกัน เรามีส่วนในการเสนอการแก้ไขของเราเองกระบวนการพูดคุยควรต้องเป็นวาระแห่งชาติ ไม่ใช่รัฐบาลชุดไหนเห็นความสำคัญก็เกิดขึ้น หรือบางชุดก็หยุดไป ในส่วนของงบประมาณประจำปีควรจะมีตัวเลขกลมๆในทุกระดับ มีในส่วนพัฒนาสตรีโดยเฉพาะถึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลง

ส่วนใหญ่เมื่อช่วยเหลือสตรีมักมองแค่เรื่องอาชีพ เย็บเสื้อผ้า ทำขนม หากไม่พัฒนาศักยภาพ 10 ปีก็ส่งเสริมเหมือนเดิม ไม่เกิดการต่อยอดและพัฒนา สิ่งเหล่านี้ต้องใช้ต้นทุนงบประมาณซึ่งต้องจัดการกับงบประมาณเหล่านี้”

@ทุกระดับการเมืองควรมีผู้หญิง

“เราพยายามส่งเสียงอยู่ตลอด พัฒนาคุณความเข้มแข็งความเชื่อมั่นให้กับผู้หญิง ผู้หญิงในพื้นที่ยังขาดโอกาส ขาดองค์ความรู้ ความรู้คืออำนาจ สิ่งแรกที่จะทำให้ผู้หญิงกล้ามีจุดยืนของตัวเองลุกขึ้นมาต่อสู้คือความรู้ในประเด็นนั้นๆ กล้าลุกขึ้นมาเรียกร้อง บอกความต้องการของตนเองเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหา ต้องสร้างโอกาสมีความรู้แต่ขาดโอกาสก็เสียเปล่า ชุมชน สังคมต้องเห็นคุณค่าในความเป็นผู้หญิง

คิดว่าถ้าจะผลักดันเฉพาะระดับข้างล่างคงไม่พอ จึงขออาสาเข้าไปนั่งในรัฐสภา เพื่อเป็นตัวแทนของผู้หญิงและสร้างโอกาสให้ผู้หญิงเข้าเป็นส่วนหนึ่งในการเข้าไปแก้ปัญหา รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจในคณะกรรมการต่างๆ”

ปาตีเมาะบอกว่า นโยบายที่จะลงมาพัฒนาพื้นที่ต้องได้รับการสนับสนุนจากคนในพื้นที่และต้องอยู่ได้เช่นกัน ทั้งเรื่องคุณภาพชีวิต หญิงหม้าย เด็กกำพร้า ระบบการศึกษาที่ไม่เอื้อต่อวิถีชีวิต รวมทั้งระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะทำอย่างไรให้คนสามารถเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเองได้ ท่ามกลางเศรษฐกิจที่มันย่ำแย่ ตอนนี้เชื่อมั่นว่า ไม่มีใครรู้ปัญหาได้ดีเท่ากับคนในพื้นที่

@มุมมองด้านศาสนา

” ผู้หญิงกับการเป็นผู้นำเป็นเรื่องถกเถียงกันมานาน จากผู้นำศาสนาผู้นำชุมชน ผู้ชาย มีฟัตวาหนึ่งจากสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานีเมื่อปี 2562 พูดถึง “การที่ผู้หญิงลุกขึ้นมาเป็นผู้นำหมายถึงการเป็นตัวแทน ไม่ใช่ว่าเป็นผู้นำทางศาสนา การเป็นตัวแทนทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงแทนพี่น้องประชาชนจึงไม่ผิดหลักศาสนา” แต่คนส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ความเข้าใจ การกระจายข่าวสารฟัตวาจึงสำคัญในการที่จะจัดการให้ผู้หญิงเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจการเมืองเป็นตัวแทนของกลุ่มคนในการเข้าไปผลักดันนโยบายต่างๆ เราไม่ได้ไปนำละหมาด”

@เชื่อภูมิใจไทยว่า “พูดแล้วทำ”

“จากที่ไม่เคยคิดจะลงการเมืองอีก หลังจากลงสมัครกับพรรคหนึ่งในสมัยที่แล้ว แต่ประสบการณ์การทำงานในด้านการช่วยเหลือผู้หญิง การปกป้องคุ้มครองสิทธิผู้หญิง การพัฒนาศักยภาพ การส่งเสริมความเท่าเทียมรวมถึงการส่งเสริมสันติภาพในชายแดนใต้ ทำให้เข้าใจปัญหาและข้อจำกัดของชายแดนใต้มากมาย ดิฉันจึงตัดสินใจเข้าสู่สนามการเมืองในนามพรรคภูมิใจไทย ในฐานะว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งสิ่งที่ทำให้ดิฉันตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยด้วยเหตุผลที่ว่า “พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ”
เมื่อรับปากแล้วก็ทำให้เห็นเป็นรูปธรรม เห็นว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้วจนถึงวันนี้ผู้สมัครของภูมิใจไทยลงเกาะพื้นที่ตลอด ว่าที่ผู้สมัครก็เช่นกัน ลงพื้นที่ไม่เว้นแต่ละวัน เมื่อได้รับเลือกแล้วไม่ใช่แค่นั่งในสภาแล้วจบหรือทิ้งพื้นที่ ทำให้เห็นว่างานการเมืองไม่ใช่ 4 ปีมาให้ประชาชนเห็นหน้าก่อนเลือกตั้ง สิ่งที่เห็นเป็นรูปธรรมเป็นการยกระดับชีวิตของคนที่เป็นหมอคนที่ 1 ใกล้ประชาชนที่สุดคือ อสม. ช่วงโควิดที่ผ่านมาอสม.ทำงานหนักมากภูมิใจไทยชูนโยบายเงินเดือนอสม. 2,000 บาทต่อเดือน ซึ่งก็ทำได้จริง เชื่อมั่นว่านโยบายที่ให้ประชาชนรับรู้ไม่ใช่นโยบายขายฝัน พูดแล้วทำได้จริง รอบนี้ไม่ว่าจะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ก็สามารถทำได้แน่นอน
อีกเรื่องที่เป็นส่วนในการตัดสินใจคืออุดมการณ์ของสร้างพรรค เป็นพรรคที่เพียบพร้อมไปด้วยคนที่มีความสามารถและมีศักยภาพ ที่มีหัวใจรักชาติบ้านเมือง ดิฉันจึงเลือกที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพรรคภูมิใจไทย

สิ่งที่จะทำให้คนในพื้นที่ได้รับประโยชน์สูงสุด เป็นสิ่งที่เราทุกคนจะต้องช่วยกันสนับสนุนและจะก้าวผ่านความขัดแย้งไปด้วยกัน”

@พร้อมทำงานการเมือง ขอโอกาสจากพื้นที่

“วันนี้ดิฉันพร้อมแล้วกับความมุ่งมั่นที่จะทำงานการเมืองที่เข้าใจผู้หญิงด้วยกันและทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อจะกลับมาพัฒนาวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เศรษฐกิจ การศึกษา บทบาทของผู้หญิง ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และทั่วประเทศให้กลับมาดียิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางนักการเมืองอย่างเต็มตัว

4 ปีไม่นาน ลองเลือกคนใหม่เข้าไป ถ้าไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง สมัยหน้าก็ไม่ต้องเลือก ให้โอกาสผู้หญิงได้มีพื้นที่ทางการเมือง อุดมการณ์ที่อยากเปลี่ยนแปลงในพื้นที่และทั่วประเทศเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้หญิงให้ดียิ่งขึ้น”


ภาพ/ข่าว
มะอายือมิง สาแล๊ะ
ปัตตานี

 17,761 total views,  4 views today

You may have missed